การสร้างความมั่นคงและหลักประกันชีวิตให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานได้จัดงานการสร้างการรับรู้ประกันสังคมภาคสมัครใจกลุ่มอาชีพสื่อมวลชน มีพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน พร้อมกล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีนโยบายที่เน้นคุ้มครองและพัฒนาแรงงานนอกระบบ โดยโน้มน้าวจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบประกันสังคมภาคสมัครใจเพิ่มขึ้น ซึ่งจัดทำแผนปฏิบัติการด้านบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2560 กำหนดยุทธศาสตร์เสริมสร้างหลักประกันสังคมและขยายความคุ้มครองให้ทั่วถึง ในปี 2560 สำนักงานประกันสังคมได้แก้ไขกฎหมายเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 กรณีผู้ประกันตนรายเดิมที่อยู่ในระบบ และเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง
ปัจจุบันมีผู้ประกันตนนอกระบบ จำนวน 22 ล้านคน มีจำนวนผู้ประกอบอาชีพอิสระ เข้าระบบแล้ว จำนวน 2,700,000 คน การจัดงานจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมให้ประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกกลุ่มอาชีพที่ไม่มีนายจ้าง เช่น พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญในการเข้าสู่ระบบความคุ้มครองประกันสังคมและส่งเสริมการมีหลักประกันชีวิตเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตั้งเป้า 5 ปี มีอาชีพอิสระเข้าสู่ระบบประกันตน 5,000,000 คน พร้อมย้ำว่าระบบนี้จะเป็นเหมือนการออมเงินรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้เกิดความมั่นคงในอาชีพต่อไป
นางสาวดวงพร พรพิทักษ์พันธุ์ หัวหน้าผู้ตรวจการ กรมสำนักงานประกันสังคม อธิบายว่า สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 60 ปี ไม่เป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 ที่มีนายจ้าง ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานครหรือท้องถิ่น หรือไม่เป็นสมาชิกกองทุนรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่น
สามารถสมัครโดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน สามารถเลือกชำระ สมทบกองทุนประกันสังคมตามมาตรา 40 ได้ 3 ทางเลือก คือเดือนละ 70 บาท เดือนละ 100 บาท และเดือนละ 300 บาท จะได้รับความคุ้มครองทั้งกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรับค่าทดแทนขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพรับเงินทดแทนการขาดรายได้
กรณีเสียชีวิตได้รับเงินค่าทำศพ กรณีชราภาพได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล เช่น เจ็บป่วยนอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป ได้รับการคุ้มครองวันละ 300 บาท เสียชีวิต ผู้จัดการศพได้รับค่าทำศพ 20,000 บาท หากจ่ายสมทบมาแล้ว 60 เดือน ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายเพิ่ม 3,000 บาท โดยในแต่ละเดือน สามารถชำระเงินสมทบผ่านทางช่องทางธนาคารและเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 1506 หรือ www.sso.co.th.
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม