ตร.ระบุ คดียิงนักศึกษาอุเทนถวายมีการวางแผนและเตรียมการก่อเหตุอย่างเป็นระบบ

ความคืบหน้าคดียิงนายกมลวิช สุวรรณทัต นักศึกษาปี 4 คณะโลจิสติกส์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย  เสียชีวิต ย่านถนนนวมินทร์ ซอย 57 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2561 จากนั้นศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 5 รายในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คือ นายประสิทธิ์ ยลต์พล ทำหน้าที่มือปืน, นายจิรภัทร เพชรรักษ์ ทำหน้าที่คุ้มกัน นำทาง พาหนี, นายสหรัฐ ดงพระจันทร์ ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน, นายกฤษฎา นราพงษ์ ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ, นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล  ทำหน้าที่ชี้เป้า ทั้งหมดเป็น นักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน  

โดยจากการปิดล้อมตรวจค้น 14 จุด จับกุมได้แล้ว 3 ราย ยังหลบหนีอีก 2 ราย ซึ่งจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่ามูลเหตุมาจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มนักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กับกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 15 คดี และ ล่าสุดวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายยิงนักศึกษาสถาบันปทุมวันเสียชีวิตที่จังหวัดปทุมธานี สร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มผู้ต้องหาและเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนักศึกษาสถาบันอุเทนถวาย จึงเริ่มวางแผนเพื่อลงมือแก้แค้น โดยพบว่านายกมลวิช  ซึ่งเป็นนักศึกษาของอุเทนถวายจะออกมาช่วยครอบครัวขายของปากซอยนวมิน57 อยู่ทุกวันจึงเฝ้าติดตามและมาวนดูลาดเลาล่วงหน้า 3 วัน ก่อนจะลงมือก่อเหตุ 

พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงศษ์ปิ่น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ถูกจับกุมได้ ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่ารู้เห็นการก่อเหตุ แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชี้ชัด ซึ่งพบว่า สาเหตุมาจากเรื่องสถาบัน และการเลือกเหยื่อจากสถาบันฝั่งตรงข้าม โดยการค้นหาจากสื่อสังคม หรือ พบตัวในสถานที่ต่าง ๆ จากนั้นพอทราบที่อยู่ของเหยื่อก็จะเฝ้าติดตามจนนำไปสู่การก่อเหตุ แต่กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุในคดีอื่น ๆ เพราะมีการแบ่งกันลงมือรุ่นต่อรุ่น ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องอีกนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวน ว่ามีใครสนับสนุนเรื่องเงิน ยานพาหนะ และอาวุธ 

ด้านพลตำรวจตรี อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่าเป็นการก่อเหตุที่ทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่ชัดเจน มีการระดมเงินจากศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันไว้เป็นค่าประกันตัว ค่าจ้างทนายต่อสู้คดี และค่าจัดซื้ออาวุธ ส่วนรูปเฟืองที่มีการสักตามตัวของผู้ต้องหานั้น ไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับการลงมือฆ่าแล้วถึงจะได้มา แต่ได้มาจากการรับน้อง โดยพวกรุ่นพี่จะเป็นผู้พิจารณาว่าใครเหมาะสมที่จะทำหน้าที่อะไร  ซึ่งไม่ได้บังคับ แต่เป็นความสมัครใจของแต่ละคน และสถาบันไม่รู้เห็นด้วย ส่วนการเลือกก่อเหตุ มักเลือกเหยื่อที่อ่อนแอและอยู่ที่แจ้ง โดยจะมีคนชี้เป้า ซึ่งแต่ขั้นตอนจะมีผู้สั่งการและรู้รายละเอียดแค่หน้าที่ของตัวเองเท่านั้น บางครั้งก็เป็นการก่อเหตุผิดตัว 

ขณะที่พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาของทั้งสองสถาบันทงนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา แต่ในเบื้องต้นจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต้องนำ พ.ร.บ.การฟอกเงินมาใช้ด้วย เพื่อปราบปราบผู้ที่สนับสนุน

ขณะเดียวกันวันนี้พ่อและแม่ของนายกมลวิช เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี โดยนายนฤดม สุวรรณทัต พ่อของนายกมลวิช บอกว่า รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังไม่ทั้งหมด เพราะยังจับผู้ต้องหาได้ไม่ครบ โดยช่วงบ่ายจะเดินทางไปสน.ลาดพร้าว เพื่อไปดูหน้าของผู้ต้องหา และถามผู้ต้องหาด้วยว่า ทำไมไม่หาข้อมูลว่าใครเป็นคนยิงรุ่นพี่ในสถาบันเสียชีวิต แต่ทำไมถึงทำกับลูกชายของตนเองทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย 

โดยช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่จะคุมตัว 3 ผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาฯ ฝากขังผัดแรก

...

ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ