จากการชุมนุมประท้วง ปิดถนนหลายสายในฝรั่งเศสในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อแสดงความไม่พอใจมาตรการเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 227 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน และมีผู้ประท้วงถูกจับกุมดำเนินคดีอีกนับร้อยคน นายเจอราร์ ดาร์มานิน รัฐมนตรีด้านกิจการสังคมและงบประมาณสาธารณะของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า รัฐบาลทราบว่าประชาชนไม่พอใจ แต่นโยบายนี้ถือเป็นพันธกิจของรัฐบาล ในการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนอิหร่าน ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี เปิดเผยว่า อิหร่านจะไม่จำนนต่อความพยายามของสหรัฐฯ ที่ใช้มาตรการกดดันให้อิหร่านยุติการส่งออกน้ำมัน เพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยอิหร่านจะส่งออกน้ำมันต่อไป ทั้งกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ กล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯในหลายประเด็นตั้งแต่อัฟกานิสถาน, เยเมน ไปจนถึงซีเรีย ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันสหรัฐฯต่างหากคือฝ่ายที่ถูกโดดเดี่ยว
ด้านทางการจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้าน ตั้งแต่การยอมรับคำขอจากบริษัทประกันต่างชาติในการเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทร่วมทุนท้องถิ่นซึ่งจะมีผลในต้นปีหน้า ทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะให้บริษัทประกันต่างชาติถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการกำกับดูแลธุรกิจประกันจะเผยแพร่คำแนะนำในขั้นสุดท้ายในช่วงไตรมาสหนึ่งของปีหน้า และจะเริ่มรับคำขอจากบริษัทประกันต่างชาติต่อไป
ขณะที่ในเรื่องของการท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจีน เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติ 53 ประเทศและภูมิภาคที่เดินทางเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองเซี่ยเหมิน ชิงเต่า อู่ฮั่น เฉิงตูและคุนหมิง จะได้รับสิทธิ์เข้าเมืองโดยได้รับยกเว้นวีซ่าเป็นเวลา 144 ชั่วโมง หรือ 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป จากเดิมที่พำนักได้เพียง 72 ชั่วโมง ทั้งนี้กรุงปักกิ่ง และเทียนจิน มีมาตรการฟรีวีซ่า 72 ชั่วโมง มาตั้งแต่ปี 2556 จากนั้นก็ขยายเวลาเป็น 144 ชั่วโมงเมื่อเดือนธันวาคม 2560
ส่วนกรณีที่ทางการจีนแสดงเจตนาตั้งฐานทัพเรือในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน เปิดเผยว่า กัมพูชาไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพเพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีกองกำลังต่างชาติ โดยไม่ต้องการให้ต่างชาติเข้ามาสู้รบในดินแดนของกัมพูชาเหมือนในอดีต และไม่ต้องการเป็นดินแดนเพื่ออุดมการณ์หรือการทดสอบอาวุธ
ในวันนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีนจะเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ โดยมีกำหนดประชุมกับ ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี และการค้า โดยฟิลิปปินส์สนับสนุนความพยายามของจีนในการส่งเสริมเสถียรภาพ และสันติภาพในภูมิภาคผ่านทางการเจรจาในการแก้ปัญหาในทะเลจีนใต้
อัยการกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นจับกุมนายคาร์ลอส โกสน์ ประธานนิสสัน มอเตอร์ และนายเกรก เคลลี ประธานกรรมการบริษัท เนื่องจากต้องสงสัยว่ารายงานรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงเกือบ 1 หมื่นล้านเยน (88.70 ล้านดอลลาร์) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ในช่วงปี 2554-2559 และนำเงินของบริษัทไปใช้ส่วนตัว ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายมาตรการทางการเงินและแลกเปลี่ยน
ด้านนายฮิโรโตะ ไซกาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ยืนยันว่าทั้ง 2 คนถูกจับกุมตัวจริง และในวันพฤหัสบดีนี้ จะเสนอให้บอร์ดกรรมการปลดทั้ง 2 คนออกจากตำแหน่ง
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบต่อไป รวมถึงการจะปรับขึ้น 4 ครั้งในปีหน้า โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวร้อยละ 2.5 ในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยลดลงจากระดับร้อยละ 3.5 ในไตรมาส 3 และไตรมาสแรกของปีหน้าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5
ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายล่าสุด สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 56.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 3 เซ็นต์ ปิดที่ 66.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงตามแรงเทขายหุ้นในกลุ่มไอที ดาวโจนส์ ลดลง 395.78 จุด หรือร้อยละ 1.56 ปิดที่ 25,017.44 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 45.54 จุด หรือร้อยละ 1.66 ปิดที่ 2,690.73 จุด
แนสแดค ลดลง 219.40 จุด หรือร้อยละ 3.03 ปิดที่ 7,028.48 จุด
...