การรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมตำรวจทั่วประเทศผ่านวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ เพื่อเตรียมมาตรการการรักษาความปลอดภัย และกล่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่รวม 55,000 คนและมีกำลังสนับสนุนอีก 10,000 คน โดยการจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครมี 4 จุดใหญ่ ประกอบด้วย เอเชียทีค คาดว่ามีประชาชนเข้าชมงาน 10,000-20,000 คน, สะพานพระราม8 ประมาณ 10,000 คน, ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมาณ 5,000 คน และศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากสุดคือประมาณ 50,000 คน ส่วนต่างจังหวัดมีประมาณ 20 จุดที่คาดว่ามีประชาชนเข้ามาร่วมงานมากกว่า 1,000 คน จึงสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้าขึ้นมาควบคุมสถานการณ์ ซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัย และ ตรวจสอบห้องวิทยุสื่อสาร โดยขอให้แต่ละสถานีตำรวจเตรียมพร้อมปฎิบัติงาน หากพบเหตุให้แจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น police i lert u เพื่อให้ตำรวจทุกหน่วยรับทราบเหตุและร่วมปฎิบัติการช่วยเหลือทันที นอกจากนี้ยังกำชับทุกพื้นที่กวดขันสถานบริการสถานบันเทิง ไม่ให้มีการลักลอบเปิดเกินเวลาและไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการเด็ดขาด และป้องปรามปัญหายาเสพติดด้วย
ส่วนการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญ ได้สั่งการให้ตรวจสอบโป๊ะและท่าเรือทุกแห่งให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เสื้อชูชีพ ห่วงยาง โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุมการปฎิบัติการของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ทั้งกิริยา วาจา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการ 3 ห้าม 3ควร 3ไม่ 3ระวัง
โดย3ห้าม คือ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง ปะทัด และ ปล่อยโคมลอย, ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้า ห้ามดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ขณะขับขี่
3 ควร คือ ควรระมัดระวังการใช้โป๊ะ, ควรระมัดระวังการถูกล่อลวง ควรสืบสานประเพณีลอยกระทงอย่างไทย
3 ไม่ คือ ไม่แต่งกายล่อแหลม, ไม่ปล่อยให้เด็กเที่ยวลำพัง ไม่เที่ยวในสถานที่มั่วสุม
3 ระวัง คือ ระวังถูกล้วงกระเป๋า ระวังถูกล่อลวงไปละเมิดทางเพศ ระวังอุบัติเหตุทางน้ำ
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ