ยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ไฟป่าทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็น 71 คน ส่วนตัวเลขผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็น 1,011 คน จาก 631 คน เมื่อวันพฤหัสบดี และมีบ้านเรือนถูกเพลิงเผาผลาญราว 10,000 หลัง แต่เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า ตัวเลขผู้สูญหายยังไม่นิ่ง เป็นข้อมูลดิบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีชื่อซ้ำกัน แต่ก็มิได้หมายความว่า เป็นผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม กรมสาธารณสุข ได้แนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านพัก เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดควันพิษจากไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีระดับคุณภาพอากาศเลวร้ายยิ่งกว่าเมืองขนาดใหญ่ที่มีมลพิษสูงในเอเชียใต้
ขณะเดียวกัน นครซานฟรานซิสโก ได้สั่งปิดโรงเรียนรัฐทั้งหมด รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รอบอ่าวซานฟรานซิสโก รวมถึงสะพาน “โกลเดน เกท” ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ เพื่อสำรวจความเสียหาย และพบเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในพื้นที่เสียหายเป็นวงกว้างขนาดเท่านครชิคาโก
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า การบริหารจัดการที่ผิดพลาดในบริเวณพื้นที่ป่าไม้ของรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นสาเหตุไฟป่าครั้งนี้ แต่ก็ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกอาจมีส่วนเล็กน้อย
ด้านนายลอนดอน บรี้ด นายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก ประกาศให้บริการรถโดยสารสาธารณะฟรีทั้งวัน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งให้แก่ประชาชน ซึ่งต้องดำรงชีวิตท่ามกลางหมอกควันหนาปกคลุมทั่วเมือง
ทีมต่างประเทศ