ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จีนพร้อมแล้วที่จะทำข้อตกลงคลี่คลายปัญหาตึงเครียดทางการค้า แต่ข้อเสนอเกี่ยวกับรายการสินค้าต่างๆ รวม 142 รายการ ซึ่งจีนได้เสนอมายังไม่เป็นที่ยอมรับ โดยผู้นำสหรัฐฯ คาดหวังได้ข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน แต่ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ ดูขัดแย้งกับนายวิลเบอร์ รอส รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯ คงจะไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการกับจีนได้ภายในเดือนมกราคม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา ในปลายเดือนนี้ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยังบ่งชี้ว่า สหรัฐฯ จะยังคงดำเนินนโยบายแข็งกร้าวกับจีนจนกว่าจีนจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเอาเปรียบสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดหวังว่า สหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงคลี่คลายปัญหาการค้าได้ในเร็วๆ นี้ เพื่อยุติความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ รวมถึงผู้บริโภค ซึ่งต้องบริโภคสินค้าราคาแพงขึ้น
ขณะเดียวกัน นายชาด บาวน์ นักเศรษฐศาสตร์สถาบัน “ปีเตอร์สัน อินสทิทิวจ์ ฟอร์ อินเตอร์เนชันแนล อิโคโนมิกส์” ซึ่งกำลังศึกษาผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างใกล้ชิด ออกรายงานบ่งชี้ว่า การดำเนินมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าเหล็กกล้า ซึ่งพุ่งเป้าไปที่จีนและประเทศผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่อื่นๆ แม้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่กำลังสร้างความเสียหายโดยอ้อมต่อประเทศผู้ผลิตเหล็กกล้าขนาดเล็ก
ทีมต่างประเทศ
แฟ้มภาพ