พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวผลการกวาดล้างผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีคอลเซ็นเตอร์ และ คดีโรแมนซ์สแกม หรือ แสร้งรักออนไลน์ ช่วงระหว่างวันที่10-16 พฤศจิกายน 2561 สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีคอลเซ็นเตอร์ได้4ราย และคดีโรแมนซ์สแกมได้20นาย พบว่าเป็นคนไทยทั้งหมด
ขณะเดียวกัน วันนี้ได้มีการส่งมอบเงินคืนให้ผู้เสียหาย 2 ราย ใน 2 คดีดังกล่าว ตามมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมเป็นเงิน 446,000บาท แบ่งเป็นคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายจำนวน 400,165บาท เจ้าหน้าที่ สามารถอายัดเงินไว้ได้และส่งมอบคืนเงินให้กับผู้เสียหาย 190,000 บาท
ส่วนคดีโรแมนซ์สแกม เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ผู้เสียหายถูกหลอกโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวม 256,000บาท เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินและคืนให้ผู้เสียหายเต็มจำนวน
สำหรับสถิติการรับแจ้งเหตุคดีคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จำนวน 506 คดี ความเสียหายกว่า 260 ล้านบาท คดีโรแมนซ์สแกมจำนวน 201 คดีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่าขณะนี้ สำนักงาน ปปง., สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการบูรณาการ การทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ ตำรวจที่ได้มีการจับกุมคนร้ายทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายกลุ่ม แต่มิจฉาชีพ ก็ยังพยายามหลบหนีโดยใช้การหลอกลวงที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้รับฟังการประชาสัมพันธ์ จากหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ทั้งนี้กรณีพบว่าถูกหลอกลวง ให้รีบโทรแจ้งที่สายด่วนของ สำนักงานปปง. เบอร์ 1710 ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ผู้สื่อข่าว :ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ