การจับกุมผู้ต้องหาคดี Romance scam แสร้งรักออนไลน์ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีเครือข่าย Romance scam ที่มีพฤติกรรมตระเวนถอนเงินตามตู้ ATM หลายแห่ง ย่านถนนอุดมสุข จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบพบว่าคนร้ายมีตำหนิรูปพรรณตรงตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนมา จึงเข้าไปตรวจค้นพบชื่อนายอเล็กซ์ มานูเอล สัญชาติกินี-บิสเซา พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด ATM โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาใช้สวมใส่ขณะกระทำความผิด จากการตรวจสอบบัตรกดเงินสดและสมุดบัญชีธนาคารดังกล่าวตรงกับบัญชีที่คนร้ายใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเป็นจำนวนเงิน 243,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายเคยแจ้งความไว้ที่สภ. เมืองอุบลราชธานีแล้ว
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าผู้ต้องหาไม่มีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย แต่ในหนังสือเดินทางมีตราประทับของด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา หมายเลข B373 ซึ่งพบว่า รอยตราประทับดังกล่าวมีการยกเลิกใช้ไปตั้งแต่ปี2560แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยรถบัสและใช้วิธีการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบช่องทางจังหวัดสงขลาและได้จัดส่งหนังสือเดินทางผ่านไปรษณีย์ให้กับนายโจเซฟ ชาวไทยที่อ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และสามารถช่วยลงตราประทับด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดาจังหวัดสงขลาได้ โดยให้ค่าจ้างนายโจเซฟเป็นเงินจำนวน 20,000 บาทและเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมีหน้าที่ถอนเงินจากบัญชีกลุ่มแก๊ง Romance scam ที่ได้หลอกลวงผู้เสียหาย ตนเองได้ค่าจ้างร้อยละ5 ของเงินที่ถอนได้ และจะนำเงินที่ถอนออกมาฝากเข้าบัญชีคนร้ายอีกทอดหนึ่งเพื่ออำพรางเส้นทางการเงิน โดยหลังจากที่ตระเวนถอนเงินหลายครั้งผู้ต้องหาเริ่มหลอกลวงผู้เสียหายด้วยตนเองโดยสร้างเฟสบุ๊ก พูดคุยหลอกลวงผู้เสียหายจนกระทั่งถึงเจ้าหน้าที่จับกุมได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินคดีปลอมเอกสารและใช้เอกสารทางราชการปลอมและเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีเกี่ยวกับความผิดฐานหลอกลวงเงินผู้เสียหายต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ