ผู้นำสิงคโปร์ระบุอาเซียนและจีนควรจะเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจให้มากขึ้นเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

เว็บไซต์แชนเนิล นิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์ กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดกลุ่มระหว่างกลุ่มอาเซียน-ประเทศจีนในสิงคโปร์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียนและประเทศจีนควรจะเปิดกว้างและเชื่อมโยงกันให้มากขึ้น เพื่อรักษาพลวัตรทางเศรษฐกิจในขณะนี้ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เขาเสนอแนะต่อที่ประชุมในเรื่องการใช้ประโยชน์จากพัฒนาการในเชิงบวกในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอาเซียนกับประเทศจีนเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายให้ขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ประเทศจีนฉบับปรับปรุงใหม่

ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างการประชุมในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียในปี 2558 โดยผู้นำสิงคโปร์คาดว่าจะช่วยทำให้การส่งสินค้าจากกลุ่มอาเซียนเข้าสู่ตลาดจีนเกิดความสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ด้านนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียงของจีน กล่าวอีกว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งหน้าสู่การทำข้อตกลงเปิดเสรีด้านการขนส่งทางอากาศระหว่างอาเซียนกับประเทศจีน การระดมเงินทุนจากเอกชนและการใช้สถาบันการเงินระหว่างประเทศเช่นธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้เพื่อลดช่องว่างเรื่องการระดมเงินทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในกลุ่มอาเซียน เขาตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มอาเซียนและประเทศจีนจะได้ประโยชน์อย่างมากจากการค้าเสรี เปิดตลาดและยึดถือกฎกติกาการค้าพหุภาคีเป็นพื้นฐาน

นายหลี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นหุ้นส่วนทางการค้าอันดับหนึ่งของกลุ่มอาเซียนมาแล้ว 8 ปีติดต่อกัน ระบุว่าเมื่อปีที่แล้ว สินค้าที่กลุ่มอาเซียนส่งเข้าไปยังประเทศจีนมีมูลค่ารวม 442,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ของยอดขายสินค้าทั้งหมดของกลุ่มอาเซียน