มติ ครม.เห็นชอบให้กัญชา-กระท่อมใช้ทางการแพทย์ ปปส.-สธ.ร่วมกันดูแล

13 พฤศจิกายน 2561, 14:55น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  มีมติเห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานานและมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่ทันต่อ สถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษที่แก้ไขเพิ่มเติม คือห้ามไม่ให้ผลิตนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดประเภท 5 เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตเฉพาะกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ทางราชการ



ห้ามไม่ให้ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตและกำหนดให้มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไปให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย



กรณียกเว้น ให้มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองไม่เกินจำนวนที่จำเป็นสำหรับใช้รักษาโรคเฉพาะตัวหรือสำหรับใช้ประจำในการปฐมพยาบาลหรือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในเรือ เครื่องบิน หรือยานพาหนะอื่นใดที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือ ปปส. มีอำนาจกำหนดเขตพื้นที่ทดลองปลูกพืช ที่ให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5  ห้ามไม่ให้โฆษณายาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่เป็นการโฆษณาต่อผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับอนุญาต  กำหนดให้ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภท 5 ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต



นายพุทธิพงษ์  กล่าวว่า นอกจากนี้ยังอนุญาตให้มีการประกาศให้ปลูกพืชกัญชาและกระท่อมได้ในบางพื้นที่ซึ่งจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด และเห็นว่าเหมาะสม  ซึ่งจะใช้ในทางการแพทย์ เพื่อการรักษา ไม่ใช่ใครจะปลูกไว้หลังบ้านก็ได้  ซึ่ง ปปส.จะเป็นผู้มีอำนาจกำหนดพื้นที่ รวมถึงผู้ที่จะนำไปสกัดผลิตเป็นยาต้องมีการระบุให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้นำไปผลิตไม่ใช่ใครก็ได้นำไปทำได้อย่างอิสระ เมื่อ พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ควบคุม ทั้งการนำไปใช้ การผลิต มีระยะเวลา 5 ปี จากร่างของ สนช. ที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลา สำหรับร่าง พรบ.ฉบับนี้ คณะรัฐมนตรี จะส่งกลับไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสนช.พิจารณาภายในสัปดาห์นี้

ข่าวทั้งหมด

X