กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยืนยันบริษัทต่างชาติไม่สามารถยื่นขอจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาธรรมชาติ

กรณีที่มีนักวิชาการแสดงความกังวลเรื่องที่บริษัทต่างชาติยื่นจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้น

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ชี้แจงว่าสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติเป็นสารสกัดจากพืช ซึ่งตามกฎหมายสิทธิบัตรของไทยไม่ให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทต่างชาติจะได้รับจดสิทธิบัตรในเรื่องนี้ ส่วนที่มีการกังวลกันว่าการปลดล็อคให้นำกัญชามาใช้วิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ของไทยจะไม่มีประโยชน์ เพราะบริษัทต่างชาติยื่นคำขอรับสิทธิบัตรแล้วนั้น ก็ขอให้เข้าใจว่าจะไม่มีใครเป็นเจ้าของสิทธิในสารสกัดจากกัญชาตามธรรมชาติ โดยทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิที่จะวิจัยและนำมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้การพิจารณาคำขอเกี่ยวกับสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะดำเนินการตามกฎหมายด้วยความรอบคอบและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะเปิดรับข้อมูลหลักฐานทางวิชาการจากทุกภาคส่วนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังชี้แจงถึงหลักการยื่นจดสิทธิบัตรว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิเสธคำขอรับสิทธิบัตรของผู้ประดิษฐ์ที่ได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรอย่างถูกต้อง เพราะเป็นสิทธิที่ผู้ประดิษฐ์ดำเนินการได้ตามกฎหมาย หากคำขอมีเอกสารครบถ้วนถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคำขอนั้นจะได้รับการจดสิทธิบัตรทันที เพราะต้องพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายก่อน และคำขอรับสิทธิบัตรจะยังไม่ได้รับความคุ้มครองไปจนกว่าจะได้รับการจดทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศต่าง ๆ

ทั้งนี้ การวิจัยและพัฒนาในผลิตภัณฑ์ยาที่มีสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติ เช่น ตำรับยา, สารสังเคราะห์ชนิดใหม่ที่ดัดแปลงมาจากสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติ รวมถึงวิธีการพัฒนาสายพันธุ์พืชกัญชา ถือเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมและให้ความสำคัญ เนื่องจากทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา จึงมองว่าการปลดล็อคให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะนักวิจัยไทยจะได้พัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ยาที่มีพื้นฐานจากสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติ ซึ่งนักวิจัยไทยยังสามารถนำการประดิษฐ์ที่คิดขึ้นมาเองมาขอจดสิทธิบัตรได้ด้วย อันจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ยา

...

ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร