ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ของศรีลังกา ได้ลงนามในกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดเกือบ 2 ปีในวันที่ 5 ม.ค.2562 หลังพรรคพันธมิตรเพื่อเสรีภาพแห่งประชาชน หรือ UPFA ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในการแต่งตั้งนายมหินทา ราชปักษี อดีตประธานาธิบดีผู้ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบในช่วงสงครามปราบปรามกบฏชาวทมิฬ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยขาดเสียงสนับสนุนข้างมากไป 8 เสียง การลงนามดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา แต่นายราชปักษีจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น และสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จะเปิดการประชุมในวันที่ 17 ม.ค.2562
อย่างไรก็ตาม พรรค UNP ของนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกประธานาธิบดีศรีลังกาปลดเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2561 ได้ทวีตข้อความโจมตีการยุบสภาครั้งนี้ว่า ผิดกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ พรรค UNP จะต่อสู้เพื่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ และกล่าวหาประธานาธิบดีสิริเสนาว่า ขโมยสิทธิของประชาชน
ทั้งนี้ วิกฤตการเมืองในศรีลังกาลุกลามหลังประธานาธิบดีศรีลังกาสั่งปลดนายวิกรมสิงเหและคณะรัฐมนตรีทั้งชุดพ้นจากตำแหน่ง และยังประกาศระงับการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภาไปจนถึงวันที่ 16 พ.ย.นี้ พร้อมกับแต่งตั้งนายราชปักษีขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน แต่นายวิกรมสิงเห ซึ่งไม่ยอมรับคำสั่งปลด ยังคงไม่ยอมโยกย้ายออกจากทำเนียบที่พักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นานาชาติแสดงความกังวลต่อการเมืองในศรีลังกามากขึ้น โดยล่าสุด สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับนอร์เวย์และสวิตเซอร์แลนด์เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในศรีลังกาโดยทันที เนื่องจากเห็นว่า หากล่าช้าออกไปจะยิ่งส่งผลให้ภาพลักษณ์ของศรีลังกาเสียหายและป้องปรามนักลงทุนมิให้เดินทางเข้ามาในศรีลังกา
ขณะที่ หัวหน้าคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก็เตือนว่า ศรีลังกาเสี่ยงต่อการสูญเสียความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP