+++การเดินหน้าเลือกตั้งตามแผนโรดแมป นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการเตรียมการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการเลือกตั้งว่าจากการหารือร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปปฏิทินการทำงาน หลังจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.2561 จะเริ่มนับกำหนดเวลาให้ต้องจัดเลือกตั้งส.ส.ให้เสร็จภายใน 150 วัน คือไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.2562 ซึ่งจากการหารือกับกกต.แล้วเห็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสม คือวันที่ 24 ก.พ.2562
+++การบริหารงานของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เว้นแต่จะมีเหตุใดเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องพ้นไป เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐบาลนี้อยู่แบบมีอำนาจเต็มต่อไปจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนรับหน้าที่
+++ส่วนการปฏิบัติตัวของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.รัฐมนตรี 4 คน ที่ไปเกี่ยวข้องกับการทำงานในฐานะพรรคการเมือง ต้องดูเรื่องมารยาท ให้ระวังเรื่องการใช้เวลาราชการ ทรัพย์สินทางราชการ บุคลากรของรัฐ และสถานที่ทางราชการต้องไม่ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของพรรคและทางการเมืองที่ไม่ใช่รัฐบาล 2.นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเอื้อประโยชน์ ให้คุณให้โทษ หรือหวังผลในทางการเมือง
+++ความคืบหน้าการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยการแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด 350 เขต รวมถึงตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านเกี่ยวกับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อส่งให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ในวันนี้ ก่อนที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.จะลงนาม ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา
+++เรื่องค่าไฟ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประชุมเกี่ยวกับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2562 มีมติให้เรียกเก็บค่าเอฟที เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากงวดปัจจุบัน 4.30 สตางค์ต่อหน่วย ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จาก 3.5966 บาทต่อหน่วย นับเป็นการปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งแรกในรอบ 16 เดือน
+++เนื่องจาก ราคาเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาก๊าซในเดือน ก.ย.-ธ.ค.2561 ปรับตัวสูงขึ้น 12.67 บาทต่อล้านบีทียู ราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.48 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันเตา เพิ่มขึ้น 1.17 บาทต่อลิตร และราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น 114.36 บาทต่อตัน และราคาซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น 0.08 บาทต่อหน่วย
+++เวทีการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน (ASEAN Transport Ministers Meeting : ATM) ครั้งที่ 24 ที่เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไปเป็นประธานเปิดงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมได้หารือ 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ความปลอดภัยในการเดินเรือ จะมีการจัดระเบียบยกระดับความปลอดภัย เช่น เรือประมง เรือสำเภา เรือท่องเที่ยว เรือสำราญ การผลักดันให้เกิดมาตรฐานด้านความปลอดภัยของท่าเรือในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ที่มีท่าเรือได้มาตรฐานระดับสากล
+++2.เรื่องเสรีภาพ สิทธิในการบินของอาเซียน การเพิ่มจุดหมายปลายทางมากกว่า 2 จุดบินในเที่ยวบิน 1 เที่ยว โดยจะมีการเจรจาเรื่องของการเชื่อมต่อจุดบินระหว่างประเทศ เช่น การบินจากกัวลาลัมเปอร์มายังหาดใหญ่และบินต่อไปยังเชียงใหม่ได้ และการจราจรเสรีภาพอาเซียนกับอียู คาดว่าในเดือนธันวาคม 2561 จะได้ข้อสรุป สำหรับการประชุมดังกล่าวจะหารือร่วมกันในประเด็นเรื่องความปลอดภัยทางเรือและเสรีภาพในการบินของอาเซียนเป็นหลัก โดยจะมีการลงนามร่วมกันในวันนี้
+++รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ เป็นไปตามที่ตลาดคาด คือพรรคเดโมแครต สามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรครีพับลิกัน ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้สถานการณ์ในตลาดโลก ผ่อนคลายขึ้นเป็นปัจจัยบวก สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจาก อำนาจต่อรองที่มีมากขึ้นของพรรคเดโมแครต การออกคำสั่งหรือมาตรการต่างๆ ต้องผ่านการโหวต
+++นายอมรเทพ จาวะลา ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างไร ต้องประเมินสถานการณ์สงครามการค้าที่ต้องรอติดตาม เพราะแม้ว่าพรรคเดโมแครต จะได้เสียงข้างมากในสภาคองเกรส แต่นโยบายต่างประเทศยังมาจากประธานาธิบดี จึงต้องรอดูท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนว่าจะเดินหน้าอย่างไร อาจจะมีการทบทวนนโยบาย หรือความชัดเจนการเจรจากับจีนมากขึ้น
+++อีกประเด็นคือ นโยบายของพรรครีพับลิกัน ที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นผ่านการลดภาษี รวมทั้งด้านงบประมาณ อาจจะทำได้ยากขึ้น เพราะมีเสียงจากพรรคเดโมแครต มาถ่วงดุล ซึ่งพรรคเดโมแครต ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพเศรษฐกิจและหนี้สาธารณะ
+++ความเคลื่อนไหวตลาดน้ำมันโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กำลังผลิตน้ำมันดิบในซาอุดิอาระเบีย, รัสเซีย และสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ก่อนที่มาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานอิหร่านของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ แต่สหรัฐฯ อนุมัติข้อยกเว้นชั่วคราวให้แก่ 8 ประเทศ เปิดทางให้พวกเขาซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้
+++ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมัน ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ส่งผลให้เอสแอนด์พี 500 ปิดลบ ลดลง 7.06 จุด ปิดที่ 2,806.83 จุด เช่นเดียวกับแนสแดค ลดลง 39.87 จุด ปิดที่ 7,530.89 จุด ส่วนดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 10.92 จุด ปิดที่ 26,191.22 จุด
+++ราคาทองคำ ปิดตลาดปรับลดลง 4 วันติดต่อกัน หลังถ้อยแถลงของเฟด ไม่ได้สร้างความประหลาดใจและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,225.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
CR:รัฐบาลไทย