พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเกี่ยวกับเอกสารผลลัพธ์ที่จะลงนามหรือรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 และการประชุมสุดยอดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2561 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเข้าร่วมประชุมว่าการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนมีประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญ โดยระหว่างการประชุมนายกรัฐมนตรี จะกล่าวถ้อยแถลงเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และผลักดันประเด็นต่าง ๆ เพื่อวางรากฐานสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 เน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ การจัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย ส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์และลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างกัน รวมถึงการผลักดันความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง เช่น การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การบริหารจัดการชายแดน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการภัยพิบัติการเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น
การประชุมครั้งนี้จะมีเอกสารผลลัพธ์ให้ผู้นำรับรอง 7 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติว่าด้วยความช่วยเหลือทางการกงสุล โดยคณะทูตของรัฐสมาชิกอาเซียนในประเทศที่ 3 แก่คนชาติของรัฐสมาชิกอาเซียนอื่นๆ 2.ร่างเอกสารกรอบดำเนินงานเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน 3.ร่างแผนแม่บทอาเซียนพ.ศ. 2568 เพื่อบูรณาการสิทธิคนพิการ 4.ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการรับรองวันเยาวชนอาเซียน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ 5.ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการเจริญเติบโตอย่างเท่าเทียมและทุกคนมีส่วนร่วมของประชาคมอาเซียน 6. ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อที่ประชุมรัฐสภาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 24 และ7.ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 14
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า วันที่ 16 -18 พฤศจิกายน 2561 นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี โดยจะมี 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมประชุม ซึ่งจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจดิจิทัล และเชื่อมโยงผลักดันการเติบโต รวมถึงให้ความสำคัญกับผลกระทบจากทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ และรับมือความท้าทายจากยุคดิจิทัลด้วย ทั้งนี้ จะมีเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ คือ 1.ปฏิญญาว่าด้วยผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก สาระสำคัญคือการเปิดรับดิจิทัลเพื่อความเชื่อมโยงในภูมิภาคต่าง ๆ และ 2.ผลลัพธ์การประชุมร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปกครั้งที่ 26 เพื่อสนับสนุนข้อริเริ่มความสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเข้มแข็ง รวมถึงการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง
แฟ้มภาพ