หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อพรรธน์นภา อุดหนุน โพสต์คลิปวีดีโอ พร้อมข้อความทำนองว่า เพื่อนของตนเองไปนวดที่จังหวัดชลบุรีแล้วเสียชีวิต น.ส.กันยากร กฤษฎากรณ์ แอดมินเพจชมรมหมอนวดดี พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการกว่า10คน เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก ทำให้วงการนวดแผนไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดกับชาวต่างชาติได้
น.ส.กันยากร ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้เข้ารับบริการที่ร้านนวดแผนไทย แต่เหตุเกิดที่ร้านขายของฝาก ที่ขายลูกประคบ น้ำมันนวด สมุนไพร ซึ่งคนขายได้ชักชวนให้ผู้เสียชีวิตทดลองนวด โดยที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการนวดและไม่มีใบอนุญาตตามพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ดังนั้น การที่ผู้โพสต์กล่าวหาว่าเสียชีวิตที่ร้านนวด เป็นการโพสต์ที่ไม่ได้กลั่นกรองและไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริง และเมื่อตนเองทักท้วงไปให้ผู้โพสต์ขอโทษและแก้ข่าว กลับเงียบเฉย จึงต้องเดินทางมาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะข้อความในเฟซบุ๊กสามารถแปลเป็นภาษาต่างประเทศได้อาจจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ประเทศเสียหายและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการนวดน้อยลง และยังกระทบต่อการพิจารณาขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ที่จะยกให้การนวดแผนไทยเป็นมรดกโลก โดยจะทราบผลในปลายปีนี้
ด้านนายธนวรรธน์ บุญพลอย นักศึกษาแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ผู้ที่จะให้บริการนวดได้จะต้องอบรมมาไม่น้อยกว่า150 ชั่วโมงหรือประมาณ1เดือน และจะได้รับใบอนุญาตด้วย ซึ่งจะทราบอยู่แล้วว่า ผู้ที่มีภาวะเสี่ยง เช่น มีบาดแผลฟกช้ำ ความดันสูง กระดูกหัก เบาหวาน มะเร็ง จะไม่นวดให้เด็ดขาด พร้อมยืนยันว่าการนวดที่ถูกวิธีถือว่าเป็นการรักษาโรคได้ ส่วนภาวะลิ่มเลือดอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะจากการนวด ตัวแทนผู้ประกอบการฝากถึงผู้โพสต์ว่า ขอให้ไตร่ตรองข้อมูลก่อนจะนำออกมาเผยแพร่ เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ