+++หนึ่งในประเด็นที่มีการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กับคณะกรรมาธิการการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คือ เรื่องการยุบพรรคการเมือง และการสังกัดพรรคใหม่ จากการที่กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้ง ผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอย่างช้าที่สุดคือภายในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ แต่หากว่า หลังวันดังกล่าว พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ การไปสังกัดพรรคการเมือง จะทำให้มีปัญหาในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
+++กกต.ชี้แจงว่า วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการคาดการณ์ โดยพิจารณาจากวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นการเร่งรัดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะได้มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งมากที่สุดเท่านั้น แต่ที่สุดแล้ววันเลือกตั้งจะเป็นวันใดก็ขึ้นอยู่การประชุมตามข้อ 8 ของคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 53/2560 หลัง พ.รป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้
+++ส่วนหากมีการยุบพรรค หลังวันที่ 26 พฤศจิกายน สมาชิกก็ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่ แต่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ไม่ได้ เพราะถือว่าสังกัดพรรคการเมืองนั้นมายังไม่ถึง 90 วัน
+++กกต. ชี้แจงเรื่องการขอเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรต่างประเทศว่า สหภาพยุโรป(อียู) ได้ขอที่จะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามา 200 - 400 คน โดยขอที่จะไปสังเกตการณ์ในทุกพื้นที่ ซึ่งถือว่าจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ กกต.ยังไม่ได้การประชุมหารือกันในประเด็นดังกล่าว
+++นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ประกาศรับรองพรรคพลังประชารัฐแล้ว(พปชร.) กลุ่มสามมิตร ก็จะนำสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ อย่างเป็นทางการ คาดว่า จะเป็นวันที่ 18 พ.ย.ที่ร.ร.อินเตอร์คอนฯ ราชประสงค์ เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป กลุ่มสามมิตร มั่นใจว่า นโยบายที่ตอบโจทย์ของประชาชนจะทำให้พรรคพลังประชารัฐ ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ นายธนกร กล่าวว่า ผู้สมัครในกลุ่มสามมิตร เป็นบุคคลที่ลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน มาโดยตลอด รวมทั้งส่วนใหญ่เป็นอดีตส.ส. อีกทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร เตรียมความพร้อมให้สมาชิกมากกว่า 5 เดือนแล้ว ดังนั้น มั่นใจได้ว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
+++มีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า หลังจากกกต.รับรองพรรคแล้ว คาดว่า จะมีการประชุมพรรคครั้งที่ 2 ในวันที่18 พ.ย.นี้ โดยมีกรรมการบริหารพรรค ร่วมหารือแนวทางการดำเนินกิจกรรมตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค การเลือกผู้แทนประจำจังหวัด การจัดตั้งสาขาพรรค รวมทั้งการพิจารณาเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งในวันดังกล่าวจะเปิดให้สมาชิกและผู้ที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.มาแสดงตัวให้ชัดเจน เพื่ออยู่ในกรอบเวลาการสังกัดพรรคของสมาชิกภายในวันที่26พ.ย.นี้
+++ภาพรวมการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า ได้รับรายงานปัญหาใน 4 หน่วยเลือกตั้ง คือ 2 หน่วยเลือกตั้งมีปัญหากีดกันผู้สังเกตการณ์ของผู้สมัครบางหมายเลข ไม่ให้เข้าไปสังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้ง ขณะที่อีก 2 หน่วยเลือกตั้ง พบความผิดปกติเรื่องจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์กับผลการลงคะแนนในเครื่องไม่สอดคล้องกัน โดยผู้สังเกตการณ์ พบว่า มีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์บางตา แต่กลับปรากฏจำนวนผู้ลงคะแนนในระบบมากผิดปกติ ซึ่งจะได้ประมวลเรื่องดังกล่าว รายงานให้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ของพรรครับทราบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ไม่ให้เกิดปัญหาการลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือและกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในวันที่ 9 พ.ย.นี้
+++ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่อีสาน กล่าวถึง การตรวจสอบพื้นที่วันลงคะแนนหยั่งเสี่ยงว่าพบปัญหาที่มีสมาชิกไปรอจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ให้ฝากบัตรประชาชนพร้อมกับปั๊มลายนิ้วมือเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่เป็นคนกดลงคะแนนให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและได้ตักเตือนไปแล้ว รวมถึงรายงานด้วยวาจาให้กกต.พรรครับทราบถึงปัญหาดังกล่าวเพื่อจะได้นำไปแก้ไข เชื่อว่า การลงคะแนนหยั่งเสียงระบบไอทีที่หน่วยเลือกตั้งในพื้นที่กทม. ภาคเหนือและภาคกลางในวันที่ 9 พ.ย.น่าจะราบรื่นมากขึ้น เนื่องจาก เครื่องลงคะแนนใช้งานได้และเจ้าหน้าที่เริ่มมีประสบการณ์จากการลงคะแนนหยั่งเสียงเมื่อวันที่ 5 พ.ย.
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,675.33 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,638.61 ล้านบาท หุ้นไทยในช่วงท้ายตลาด รีบาวด์ กลับขึ้นมา หลังจากที่ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุดในช่วงต้นภาคบ่าย เนื่องจาก รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่ออกมาตามผลโพลล์ ที่พรรคเดโมแครต คว้าเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้การทำงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มาจากพรรครีพับลิกัน ได้รับการตรวจสอบมากขึ้น นับเป็นการถ่วงดุลอำนาจระหว่างกัน โดยอาจจะมีการตรวจสอบถึงเรื่องระหว่างรัฐบาลกับรัสเซีย, นายทรัมป์ กับซาอุดิอาระเบีย รวมถึงการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
+++นอกจากนี้ ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ ซึ่งก็คาดว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มที่ Fund Flow อาจจะไหลกลับมาใน Emerging Market ได้บ้างจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 61.95 จุด ปิดที่ 22,085.80 จุดนักลงทุนเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของคณะทำงานประธานาธิบดีทรัมป์
+++ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ปิดบวกเพิ่มขึ้น 26.73 จุด ปิดที่ 26,147.69 จุด
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า พจนานุกรมคอลลินส์ของอังกฤษ ได้ยกให้คำว่า Single-use (ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง)เป็นคำแห่งปี 2018 เพื่อรณรงค์ให้สาธารณชนร่วมใส่ใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากในปัจจุบันคนทั่วโลก เริ่มตระหนักถึงผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมจากขยะพลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนทั่วโลกเริ่มตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้คำว่า single-use เริ่มกลายเป็นสำนวนพูดยอดฮิตที่สาธารณชนเข้าใจตรงกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าที่ผ่านมา การใช้ถุงพลาสติก อาจจะเคยเป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่ต้องคิดมากและสะดวกสบาย แต่ขณะนี้กระแสความคิดของสาธารณชนทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนไป โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่ามีผลเสียหายร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ภาพขยะพลาสติกที่ลอยเกลื่อนอยู่ในทะเล ทำให้สัตว์น้ำตาย ทำให้เกิดกระแสรณรงค์ให้คนทั่วโลก เริ่มหันไปใช้ถุงผ้าในการบรรจุสิ่งของแทนถุงพลาสติก
แฟ้มภาพ