ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่7พฤศจิกายน2561
+++การนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ มีแนวทางแล้ว พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จะมีการแยกกัญชา ออกจากร่างพ.ร.บ.ยาเสพติด โดยสนช.ได้ยกเรื่องดังกล่าวเป็น พ.ร.บ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะชี้แจงในที่ประชุม สนช.ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 13 พฤศจิกายน และหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ จะนำเข้าที่ประชุม สนช.เพื่อพิจารณาเป็นวาระต่อไป หากปลดล็อคได้ ก็จะมีการปรับกฎกระทรวงของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องแหล่งที่มาของกัญชา เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้องค์การเภสัชกรรม เป็นหน่วยงานนำร่องในการผลิตกัญชาเพื่อทางการแพทย์ก่อนร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจดทะเบียนอาหารและยา (อย.) ส่วนแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนไทย ต้องรอการออกพระราชบัญญัติ รวมถึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนก่อนนำไปใช้ประโยชน์อย่างถูกกฎหมายต่อไป
+++เดินหน้ารุกแก้ไขปัญหาจราจร หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำในที่ประชุมไปยังกระทรวงคมนาคมถึงการบูรณาการร่วมกันระหว่าง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรุงเทพมหานคร เรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจร พร้อมระบุว่า จากการที่ตนเองได้เดินทางไปเปิดอุโมงค์แยกรัชโยธิน ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการจราจรได้ในระดับหนึ่ง จึงเน้นย้ำให้ทำอย่างต่อเนื่องเช่น การก่อสร้างอุโมงค์ การก่อสร้างสะพานลอย การก่อสร้างรถไฟฟ้า และการก่อสร้างที่จอดรถใต้ดิน ให้ทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายพื้นที่ยังคงอยู่ในช่วงการก่อสร้าง และส่วนที่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะงบประมาณยังไม่เพียงพอ ก็ยังบรรจุอยู่ในแผนแม่บทเรื่องของการขนส่งคมนาคมตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมยืนยันว่าจะทำให้ต่อเนื่องและรวดเร็วขึ้น
+++นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ในเส้นทางเชื่อมโยงกันระหว่างภาคเหนือ ไป ภาคใต้ ภาคตะวันออก ไป ภาคตะวันตก ที่จะต้องเดินทางผ่านกันไปได้ มิเช่นนั้น จะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอยู่ระหว่างกลาง ซึ่งจุดนี้ เป็นแก้ปัญหาระยะยาวที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
+++ส่วนข้อเสนอให้ตำรวจจราจรกลับเข้าไปอยู่ในป้อม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการจราจรติดขัด พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รรท. รองผู้บัญชาการกองบัญชาการการศึกษา ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พร้อมนำข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีไปปรับใช้ให้เหมาะสม ส่วนใดที่ยังเป็นปัญหาต้องเร่งแก้ไข และอยากชี้แจงว่าที่เห็นตำรวจจราจร ลงไปโบกรถหรืออำนวยการจราจรตามถนนต่างๆเป็นเพราะศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร มองไม่เห็นสภาพปัญหา การจราจรติดขัด หรือเกิดอุบัติเหตุ บนถนนที่แท้จริง จึงให้เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยดูแล ทำให้หลายคนเข้าใจว่าตำรวจจราจรเป็นสาเหตุของปัญหารถติด
+++ส่วนข้อเสนอให้ใช้ระบบไฟจราจรอัตโนมัติ ทุกแยกจราจร นั้นส่วนตัวมองว่า จะทำให้การจราจรติดขัดยิ่งกว่าเดิม ขณะที่ สภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนของกรุงเทพฯทั้งเช้าและเย็นที่ผ่านมาใช้ระบบ ควบคุมด้วยมือทั้งหมดเนื่องจาก ต้องการใช้ถนนทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
+++พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ดูแลงานด้านการจราจร กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาการจราจร ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หรือบก.02 มีกล้อง CCTV ดูสภาพการจราจรแบบเวลาปัจจุบัน แบบReal time และสามารถสั่งการแก้ไขปัญหาการจราจรทันที ปัจจุบันได้จัดให้มีการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อดูท้ายแถวการจราจรในป้อมจราจรแยกสำคัญ แต่ยังไม่ครบทุกป้อมตำรวจและจะพยายามดำเนินการติดตั้งกล้องให้ครบทุกทางแยก รวมถึงจะมีการทดลองใช้เทคโนโลยี Google Traffic เพื่อตรวจสอบ สั่งการ และบริหารจัดการจราจรในภาพรวมในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครได้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีแผนที่จราจร Traffic map ที่สามารถมองเห็นความหนาแน่นของถนน ทั้ง 21 สายหลัก และถนนสายรองในกรุงเทพมหานครเป็นสีเขียว เหลือง แดง ทำให้เจ้าหน้าที่ บก.02 และผู้บังคับบัญชาของสายงานจราจรสามารถโฟกัสจุดที่การจราจรติดขัด และลงไปแก้ปัญหาแต่ละจุดได้
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปศึกษา และเร่งสำรวจจุดวิกฤติจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ที่สามารถทำเป็นลักษณะอุโมงค์หรือสะพานลอยได้ทันที เพื่อผ่อนคลายสภาพจราจรติดขัดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยศึกษารายละเอียดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
+++บ้านป่าแหว่ง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทรณ์ ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ บริเวณดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ หรือ "บ้านป่าแหว่ง" ว่า ที่ประชุมเห็นว่าโครงการก่อสร้างนี้เห็นชอบด้วยกฎหมายทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขอพื้นที่ การอนุญาต การของบประมาณ การดำเนินการก่อสร้าง จนกระทั่งถึงการตรวจรับงาน ดังนั้นการจะดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้องจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อที่ข้อเสนอของคณะกรรมการนี้ต่อรัฐบาลจะได้เป็นไปตามหลักกฎหมาย แต่ตอนนี้คณะกรรมการยังไม่มีมติใดๆ ส่วนจะรื้อหรือไม่นั้น ขอให้รอความเห็นของคณะกรรมการที่จะสรุปใน 30 วัน ซึ่งตนไม่สามารถพูดแทนกรรมการทั้งหมดได้
+++ส่วนการก่อสร้างบ้านพักตุลาการแห่งใหม่ที่ จ.เชียงรายเพื่อทดแทนนั้น นายกฯสั่ง เร่งรัดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ จ.เชียงรายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว เบื้องต้นทราบว่า กรมธนารักษ์ทำรังวัดแล้ว ขณะที่ศาลได้ของบประมาณเพื่อการก่อสร้างมาแล้วจำนวนหนึ่ง
+++วันนี้ มีความเคลื่อนไหวพรรคการเมือง หลังมีรายงานว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทย บางส่วนได้ยื่นหนังสือลาออกเพื่อร่วมงานกับพรรคไทยรักชาติ(ทษช.)ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันนี้(7พ.ย. โดยอดีตส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งได้นัดรับประทานอาหารกันที่ย่านเมืองทองธานี และมีการหารือเรื่องดังกล่าวโดยอดีตส.ส.รุ่นใหญ่ในพรรคต่างยืนยันว่า ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ส่วนผู้ใหญ่ในพรรคที่มีชื่อตกเป็นข่าวว่าไปร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ เช่น นายนพดล ปัทมะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นั้นได้แสดงท่าทีออกมาชัดเจนว่าไม่ต้องการออกไปทำงานกับพรรคไทยรักษาชาติ
+++อดีตส.ส.ที่ย้ายไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ที่จะมีการเปิดตัวเป็นทางการและเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันนี้ ยังไม่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเจ้าตัวอยู่ระหว่างการตัดสินเพราะยังมีเวลาอยู่ ส่วนการเปิดตัว จะมี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พาณิชย์ อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ นายมิตติ ติยะไพรัช ลูกชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นว่าที่เลขาธิการพรรค และนายฤภพ ชินวัตร ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร เป็นแกนนำพรรค โดยพรรคดังกล่าวจะชูความเป็นคนรุ่นใหม่
+++สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเป็นที่ชัดเจนแล้ว จะใช้พรรคเพื่อไทยกับพรรคไทยรักษาชาติเป็นพรรคหลักในการขับเคลื่อนงานการเมือง โดยพรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคหลัก เน้นนักการเมืองเกรดเอจากพรรคเพื่อไทย และเน้นส.ส.ระบบเขตเป็นหลัก โดยจะส่งผู้สมัครประมาณ250เขต ส่วนพรรคไทยรักษาชาติจะส่งผู้สมัครในพื้นที่ซึ่งพรรคเพื่อไทยคะแนนนิยมไม่ดีนักเช่น ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ประมาณ100เขต
+++ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ล่าสุด น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เวลา 09.00 น.วันนี้ เพื่อประชุมรวมถึงพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการตามข้อบังคับพรรคทั้งนี้มีรายงานว่าในวันดังกล่าวจะมีอดีต ส.ส. พื้นที่ภาคอีสาน ที่เคยเจรจาร่วมงานกับกลุ่มสามมิตร จำนวน 4 คน เตรียมย้ายเข้าสังกัดเข้าพรรคชาติไทยพัฒนา หลังจากที่มีปัญหาเรื่องเขตพื้นที่เลือกตั้งที่ไม่ลง ตัวโดย 4 อดีต ส.ส. จะนำประชาชน กว่า 50 คนยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมพรรคภูมิใจไทยด้วย
+++ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีเนื้อหาระบุในลักษณะเชิงขออำลาจากพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาดังนั้นจึงไม่มีคำว่าลาออก อีกทั้งยังเป็นคนไม่มีสถานะหลังจากที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แล้วอย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมามีข่าวหนาหูว่าพรรคเพื่อไทยอาจถูกยุบตนจึงกลัวว่าถ้าตัวเองเข้าไปมีบทบาทอะไรมากจนทำให้คนเข้าใจผิดว่าเราไปยุ่งย่ามทั้งทั้งที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งอะไรกับพรรคชาติไทยพัฒนาจึงกลัวหลายคนจะมองแล้วเข้าใจผิดไปจึงไม่อยากให้พรรคเดือดร้อนดังนั้นจึงขอไปเองดีกว่า จากนี้ จะกลับไปอ่างทองไปเลี้ยงหลาน ส่วนลูกชายสองคน จะตัดสินใจเดินทางการเมืองอย่างไรก็ต้องแล้วแต่เขา ผมไม่ก้าวก่าย
+++อาการป่วยของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งต้องโทษจำคุก 42 ปี ในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นายบุญทรง มีอาการป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกสันหลังและต้นคอเคลื่อน มาอย่างต่อเนื่อง และเข้ารับการรักษาทั้งในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจแบบเข้าๆออกๆ อยู่หลายครั้ง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น เดินไม่ได้ ต้องนั่งบนรถเข็น และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้รับการประสานจากแพทย์เจ้าของไข้จากโรงพยาบาลตำรวจ ว่าภายในสัปดาห์นี้หรือไม่เกินสัปดาห์หน้าจะมารับตัวนายบุญทรงไปตรวจและประเมินอาการที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะทำการผ่าตัดรักษาอาการ