มติครม.ยกเว้นค่าธรรมเนียม21ประเทศเที่ยวไทยมีผล1ธ.ค.61-31ม.ค.62

06 พฤศจิกายน 2561, 17:16น.


มาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2561 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมประเภทนักท่องเที่ยวชนิดใช้ได้ครั้งเดียวเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2561 โดยกำหนดยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา บริเวณช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง คนต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยว (Visa On Arrival) ในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน จำนวน 21 ประเทศ เช่น อินเดีย จีน ไต้หวัน จากเดิมเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมจำนวน 2,000 บาท มีผลยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561-31 มกราคม 2562 เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงกำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง และมีการบริหารจัดการที่ดี ส่วนรายได้ที่จะสูญเสียจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมดังกล่าวจำนวนเท่าไหร่ ยังคงไม่สามารถระบุได้



ที่ประชุมยังได้เห็นชอบคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ ภายใต้การ ตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษหรือ Smart Visa  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มสาขาวิชาชีพที่สามารถขอ Smart Visa ได้ 3 สาขา คือการบริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ถือ Smart Visa ให้สามารถใช้ช่องทางพิเศษบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองในท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่งในการเข้าออกประเทศไทยได้รวมถึงปรับปรุงคุณสมบัติผู้ขอ Smart Visa ประกอบด้วย กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง จากเดิมต้องมีเงินเดือนไม่รวมค่าตอบแทนไม่น้อยกว่า 200,000 บาทต่อเดือนเป็นกลุ่มทั่วไป มีเงินได้ไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อเดือน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานใน Startup และผู้เชี่ยวชาญเกษียณอายุ มีเงินได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 50,000 บาท กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษา สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทางและหน่วยงานของรัฐ ไม่กำหนดเงินได้ขั้นต่ำและระยะเวลาขั้นต่ำของสัญญาจ้าง



สำหรับกลุ่มนักลงทุน กำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาทในกิจการที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานหรือกิจการร่วมลงทุนที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน และลงทุนขั้นต่ำ 5 ล้านบาทในวิสาหกิจเริ่มต้น วิสาหกิจโครงการบ่มเพาะหรือโครงการการเติบโตที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ ส่วนกลุ่มผู้บริหารระดับสูง กำหนดเงินได้ขั้นต่ำ 200,000 บาทต่อเดือน และกลุ่มผู้ประกอบการ Startup กำหนดให้มีหลักฐานทางการเงิน เงินฝากในบัญชีฝากประจำระยะเวลา  1 ปี เป็นให้มีเงินฝากในประเทศไทยประเทศที่ตนมีสัญชาติ หรือมีถิ่นพำนักขั้นต่ำ 600,000 บาท ถือครองไม่ต่ำกว่า 3 เดือน



 

ข่าวทั้งหมด

X