ตร.จับกุมแก๊งขายของออนไลน์ 3 กลุ่มสร้างความเสียหายมากกว่า 30 ล้านบาท

06 พฤศจิกายน 2561, 12:07น.


การจับกุมแก๊งหลอกลวงประชาชนผ่านสื่อสังคม  


พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวัชรินทร์ แก้วศรี พ่อค้าขายของออนไลน์ ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก whtcharin Kaewsi ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยมีพฤติการณ์ใช้เฟซบุ๊กชักชวนประชาชนให้ร่วมประมูลซื้อสินค้าไอทีในราคาถูกกว่าท้องตลาด ในราคาเริ่มต้น 2,000 บาท โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีของนายวัชรินทร์ แต่หลังจากโอนเงินแล้วผู้เสียหายได้รับพัสดุเป็นลูกอม ยี่ห้อโอเล่และซูกัส เมื่อผู้เสียหายจะแจ้งความ ผู้ต้องหาก็โพสต์ข้อความข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับ จากการสอบสวนพบว่ามีประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท เบื้องต้นเแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ


ขณะเดียวกันตำรวจยังสามารถจับกุมนายนายคมสัน  ศรีสุข ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังร่วมกับพวก 8 คน หลอกผู้เสียหายลงทุนซื้อถุงจัมโบ้แบล็คจากโรงงานบริษัทเอกชนย่านสมุทรปราการ โดยอ้างว่าสามารถซื้อได้ในราคาเพียง 60 บาท และสามารถนำไปขายต่อได้ในราคา 80-100 บาท ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุน มีมูลค่าความเสียหาย 35 ล้านบาท โดยมีผู้ต้องหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 5 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับอีก 3 ราย


นอกจากนี้ตำรวจยังจับกุมนางภัสราภรณ์ โชติสิงห์สิริ และนายพิพัฒน์ชัย จงจิตไพศาล 2 สามีภรรยาที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลพบุรี ฐานร่วมกันฉ้อโกงให้ร่วมลงทุนเป็นตัวแทนขายเครื่องนวดสปาผ่านทางเฟซบุ๊ก และกรุ๊ปไลน์ โดยรับรองว่าหากร่วมการลงทุนจะได้ตอบแทนคืนมากกว่าร้อยละ 600 ต่อปี โดยจะให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อเครื่องนวดสปา 1 เครื่อง ในราคา 30,000 บาท และเมื่อครบ 1 สัปดาห์ ก็ได้ผลตอบแทน 3,500 บาท ซึ่งช่วงแรกได้รับผลตอบแทนตามที่รับรองไว้จริง แต่ต่อมาผู้ต้องหาระบุว่ามียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมากจึงเพิ่มกำไรให้ผู้เสียหายเป็น 5,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเพิ่มเงินลงทุน แต่เมื่อครบกำหนดกลับไม่ได้รับการโอนเงินตามเงื่อนไขที่สัญญาไว้ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าถูกนายทุนหลอกลวงมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายหลงเชื่อมากกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียรวมกว่า 30 ล้านบาท


พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ จึงขอให้ประชาชนไม่หลงเชื่อการร่วมลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่สูงเกินความเป็นจริง และหากไม่มั่นใจขอให้โทรไปปรึกษากับตำรวจที่หมายเลข 1155


...


ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ 
ข่าวทั้งหมด

X