สหรัฐฯยืนยันควบคุมการแพร่ระบาดเชื้ออีโบลาได้

ขณะที่มีรายงานว่าชายชาวอเมริกันที่ทำงานในไลบีเรียติดเชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่มอีก 1 ราย และกำลังถูกส่งตัวกลับมารักษาที่โรงพยาบาลสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ ดร.แอนโธนี เฟาซี ผอ.สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า โครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุขของสหรัฐฯ มีความทันสมัยและรัดกุมพอที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวได้ พร้อมทั้งวิงวอนให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนกไปกับข้อมูลที่ยังไม่มีคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ คำยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหลังสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้ออีโบลาในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 2 คน โดยคนแรกคือ นายโทมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรีย ที่เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ไลบีเรีย และเดินทางกลับเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส โดยที่ไม่รู้ว่าติดเชื้ออีโบลา เพราะเพิ่งแสดงอาการป่วยหลังเดินทางถึงสหรัฐฯ ได้ 5 วัน และขณะนี้อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต้องเฝ้าติดตามคนใกล้ชิดนายดันแคน ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 50 คน ในจำนวนนี้มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อ 10 คน อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขรัฐเทกซัสเริ่มขั้นตอนทำความสะอาดครั้งใหญ่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองดัลลัส ซึ่งเป็นที่พักของนายดันแคนแล้ว ขณะที่สมาชิกในครอบครัวของนายดันแคนย้ายออกไปพักสถานที่อื่น ซึ่งมีการกักบริเวณเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาอยู่ที่อย่างน้อย 3,439 คน พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดหนักสุด ได้แก่ ไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งล่าสุดโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า อาจส่งทหารเกือบ 4,000 นายเดินทางไปภูมิภาคดังกล่าว เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อสู้กับการแพร่ระบาด โดยทางการจะเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ทุกอย่างโปร่งใส และไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดได้รับเชื้อ