รองเลขาธิการกกต.เผยมี164องค์กรเอกชนร่วมตรวจสอบเลือกตั้ง

การเสวนาหัวข้อ "การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม : สถานการณ์ในสังคมไทย"
นายโคทม อารียา อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวในวงเสวนาว่า การเลือกตั้งจะเสรีต่อเมื่อไร้ซึ่งบรรยากาศความหวาดกลัว แต่ปัจจุบันกลับมีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะม.44 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทั้งมีบางฝ่ายอ้างตัวว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้เปรียบอยู่ในสนามการเลือกตั้งอีก ส่วนประชาชนเองก็ยังไม่เข้าใจระบบการเลือกตั้งและเงื่อนไขต่างๆที่ขีดเส้นให้พรรคการเมืองต้องเดินตาม ส่วนตัวจึงต้องการให้กกต.เฝ้าระวังผู้มีอำนาจให้ดี ไม่ให้ใช้อำนาจที่มีมาสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ และคสช.ควรยุติการโฆษณาตัวเองออกอากาศแต่เพียงฝ่ายเดียวได้แล้ว พร้อมเสนอให้นำเวลาดังกล่าวมาให้กกต.นำเสนอความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งแทน เพราะที่ผ่านมากกต.สร้างการรับรู้ให้ประชาชนน้อยมาก

ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการกกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม มองว่า กฎหมายใหม่ที่ให้อำนาจกกต.สืบสวนสอบสวนและทำคดีเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งได้นั้น จะทำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีองค์กรเอกชนเสนอตัวเข้าร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งแล้วกว่า 164 แห่ง ย้ำอีกครั้งว่ากกต.จะจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม
ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตัวเองมีข้อกังวลหลายประการว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะไม่เสรีและเป็นธรรม สิ่งที่เห็นได้ชัดในขณะนี้คือ การห้ามหาเสียง ที่มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะการหาเสียงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย พร้อมเชื่อว่าจากนี้ทุกอย่างที่ไม่เสรีจะเริ่มปรากฎขึ้นมาให้สังคมได้เห็น ทั้งยังเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่ยอมเป็นรัฐบาลรักษาการณ์เมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้เลือกตั้งเหมือนรัฐบาลชุดก่อนๆ ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เองก็ไม่มีความเป็นอิสระ เพราะถูกกำกับโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ด้วย ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้กกต.แจกใบเหลืองแก่ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) แต่ไม่เห็นด้วยกับการแจกใบแดงและใบส้ม ทั้งยอมรับว่ามีผู้นำหลายคนในพรรคกังวลว่าพรรคจะถูกยุบ แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นข้อกฎหมายที่จะมายุบพรรคได้ จึงเชื่อว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ แต่หลายคนในพรรคก็เตรียมทางหนีทีรอดไว้แล้ว
ขณะที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน ระบุว่า ไม่กี่วันก่อนมีสมาชิกพรรคคนหนึ่งถูกทหารบุกมาถึงที่บ้านถามว่าใครเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนพรรค ตัวเองจึงขอบอกไปยังทหารว่าสปอนเซอร์นั้นมีขายแค่ที่เซเว่น พรรคเกียนเป็นเพียงพรรคเล็กๆ ไม่มีงบประมาณเหมือนพรรคใหญ่ จะจัดประชุมพรรคแต่ละครั้งยังต้องหาสถานที่ถูกๆ ซึ่งก็เป็นอีกทางที่ทำให้เห็นว่ากกต.ไม่ได้สนับสนุนพรรคเล็กเเท่าที่ควร ทำให้พรรคเล็กไม่อาจเกิดได้ ประเทศจึงเหลือเพียงพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่สู้กันไม่กี่พรรค
ผู้สื่อข่าว : ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร