เวียดนาม ถูกกดดันลดค่าเงิน เพื่อป้องกันสินค้าจีนไหลทะลัก

เวียดนามอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ดำเนินนโยบายลดค่าเงินด่อง เพื่อป้องกันสินค้าจีนไหลทะลักเข้ามาในเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม และจะยิ่งทำให้ธุรกิจการส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดจีน เป็นไปได้ลำบากมากขึ้น หลังค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงในรอบ 2 ปี ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของจีนในไตรมาส 3 ต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2552 สะท้อนให้เห็นว่าจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของจีน นอกจากนี้ ปัญหาเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อเวียดนาม ซึ่งมีเศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออก ขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ยังคงดำเนินนโยบายเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินด่องกับดอลลาร์สหรัฐฯด้วย จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่า เวียดนาม จะปรับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสภาวการณ์ ซึ่งหากเวียดนาม ประยุกต์ใช้มาตรการรักษาเสถียรภาพค่าเงินด่องก็จะส่งผลให้เวียดนาม สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4 และรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนได้

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจจะยุติลงด้วยข้อตกลงที่ดีมากระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังมีรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงมิให้สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการทางภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนอีก

ทีมต่างประเทศ

CR: english.vietnamnet.