อธิบดีกรมทางหลวง รับมอบเงินหนุนสร้างสะพานกลับรถ ใกล้เมกาบางนาแก้ปัญหาจราจร

กรมทางหลวง รับมอบเงินจากศูนย์การค้าเมกาบางนา สนับสนุนงบประมาณโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถแห่งใหม่ในทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา- ตราดกม. ที่ 7 บรรเทาปัญหาการจราจร ลดอุบัติเหตุ นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์อธิบดีกรมทางหลวง เป็นรับมอบเงินจำนวน 95 ล้านบาท  จากศูนย์การค้าเมกาบางนา โดยนายคริสเตียน โอลอฟสัน ผู้อำนวยการศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ ยูส อิเกียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายอานนท์เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างสะพานกลับรถแห่งใหม่บนถนนบางนา- ตราดกม. ที่ 7 เป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงหลักในเส้นทางสายตะวันออกเพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการใช้เส้นทางรวมถึงช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย

สำหรับผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเมกะบางนาร้อยละ 40 ใช้เส้นทางด้านเหนือคือวงแหวนรอบนอกและด้านตะวันออกคือถนนบางนาตราดเป็นเส้นทางหลัก โดยจะต้องใช้สะพานกลับรถที่อยู่บนถนนบางนา- ตราดกม. 4.5 ที่อยู่ห่างจากศูนย์การค้าถึง 4 กิโลและมีสภาพการจราจรแออัดโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน เมกา บางนาและกรมทางหลวงจึงได้ศึกษาหาแนวทางร่วมกันในโครงการก่อสร้าง สะพานกลับรถแห่งใหม่ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง โดยสะพานกลับรถแห่งใหม่จะอยู่ใกล้เมกาบางนาเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องให้สามารถเดินทางเข้าออกในพื้นที่ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารการจราจร ภายในพื้นที่ศูนย์การค้าที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วย

ส่วนการก่อสร้างสะพานกลับรถแข่งใหม่เขตทางหลวงหมายเลข 34  ถนนบางนา- ตราดช่วงกม. 7 ดำเนินการก่อสร้างภายใต้การควบคุมและบริหารจัดการโดยกรมทางหลวงและมีศูนย์การค้าเมกาบางนา โดยบริษัทเอสเอฟดีเวลอปเมนท์จำกัดเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณค่าก่อสร้างโดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้ว เสร็จในปี 2563 โดยเชื่อว่า เมื่อเปิดใช้สะพานดังกล่าวแล้วจะช่วย อำนวยความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้เส้นทางผู้มาใช้บริการศูนย์การค้าเมกาบางนาและประชาชนทั่วไป

นายอานนท์ ย้ำด้วยว่า นโยบายหลักของกรมทางหลวงคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่งและคมนาคมทางบกของประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนโดยพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งส่วนที่พักอาศัยและส่วนธุรกิจการค้าโดยมีถนนบางนา-ตราดเป็นสายหลักเชื่อมกรุงเทพฯเท่ากับภาคตะวันออก รวมถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECอีกด้วย