ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561

+++สภาพอากาศ นายภูเวียง ประคำมินทร์ รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า วันที่ 1-2 พฤศจิกายนนี้ ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด

+++หลังจากนั้นในวันที่ 3-6 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

+++นายภูเวียง คาดว่า ฤดูหนาวปีนี้ อุณหภูมิจะใกล้เคียงกับปีก่อน โดยช่วงที่หนาวที่สุดจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม 2561-มกราคม 2562 โดยอุณหภูมิบริเวณพื้นที่ราบจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อาทิ ภูเรือ, ภูกระดึง, ดอยอ่างขาง และดอยอินทนนท์ อากาศหนาวถึงหนาวจัด

+++นายภูเวียง กล่าวว่า สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

+++ขณะที่ พายุยวี่ถู  บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ ได้เคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน และจะสลายตัวบริเวณตอนใต้ของประเทศจีน คนที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์และเกาะฮ่องกง ควรตรวจสอบสภาพอากาศ พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

+++ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ชักปืนเล็งขู่ผู้ขับขี่รถยนต์ ป.ป.ช. ออกเอกสารชี้แจงระบุว่า นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้รับรายงานผลการตรวจสอบแล้ว  พบว่าพฤติการณ์ของนายพิเศษ มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง โดยมีนายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 และระหว่างรอการสอบสวนวินัยร้ายแรง ยังไม่จำเป็นต้องสำรองราชการหรือพักราชการไว้ก่อน นายพิเศษยังปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ เพราะการมอบหมายหน้าที่ให้ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของนายวรวิทย์ ทั้งนี้ นายวรวิทย์ ได้เพิกถอนใบอนุญาตการใช้อาวุธปืนของนายพิเศษด้วย

+++วันนี้ วันแรกที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดให้สมาชิกลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค จะเปิดศูนย์บัญชาการการหยั่งเสียง เวลา 07.30น.พร้อมกับใช้สิทธิ์ออกเสียงเป็นคนแรก จากนั้นจะให้สมาชิกพรรคมาใช้สิทธิ์ไปตามลำดับจนถึงเวลา 18.00 น. การลงคะแนนผ่านหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 2 วัน คือ วันที่ 1 พ.ย. สำหรับพื้นที่ กทม. ภาคเหนือ ภาคกลาง และ วันที่ 5 พ.ย. สำหรับภาคอีสานและภาคใต้ 

+++หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้หยั่งเสียงในภาพรวม 230 เครื่อง ที่หน่วยออกเสียง ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ มีการติดตั้งเครื่องลงคะแนน 25 เครื่อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์จะติดตั้งระบบที่เซิร์ฟเวอร์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนและตัดคะแนนเสียงที่มีความผิดปกติทันที กรณีที่มีการใช้สิทธิแบบรวดเร็วผิดปกติกว่ามาตรฐาน ที่เครื่องจะรองรับได้ และหากว่ามีหน่วยลงคะแนนใดมีการใช้สิทธิ์เกินกว่าที่ตั้งไว้ เช่น หากมีคนใช้สิทธิ์ในหน่วยเกินกว่า 1,000 คน ก็ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ของพรรค ใช้ดุลยพินิจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และต้องไปดำเนินการว่าจะให้คะแนนในหน่วยเลือกตั้งนั้นเป็นอย่างไร

+++นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อดีต ส.ส.กทม. ในฐานะเลขานุการกกต.พรรค กล่าวถึงการหยั่งเสียงผ่านแอพพลิเคชัน D-elect สมาชิกพรรค สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไปและเมื่อดาวน์โหลดแล้ว สามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ทันที โดยการใช้สิทธิ์หยั่งเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นนี้จะสิ้นสุดในช่วงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 3 พ.ย. สมาชิกพรรค สามารถตรวจสอบสถานที่หน่วยลงคะแนนได้ที่เว็บไซต์ www.democrat.or.th หรือเฟซบุ๊กของพรรค ชื่อ “Democrat Party,Thailand” จากนั้น จะนำผลการหยั่งเสียงเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่พิจารณา เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 พ.ย. 

+++ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินคารวะแผ่นดิน เริ่มวันนี้ที่ภาค ตะวันออก ที่ จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดแรก ส่วนวันที่ 10 พ.ย. จะไปเริ่มเดินจากภาคใต้ เดินไล่มาถึง 30 พ.ย. จนกลับมาที่กรุงเทพฯต่อ

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเดินคารวะแผ่นดิน และมีคนไปต่อต้านและป่วน ว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ เชื่อว่า สถานการณ์จะไม่กลับมาสู่วงจรเดิม เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล ต้องให้ตำรวจกับกกต. ไปดูว่าถ้าไม่ไหว ก็ไปบอกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินไปในพื้นที่ที่อาจเกิดความวุ่นวายได้

+++คดีสมคบฟอกเงินเกี่ยวกับสินเชื่อธนาคารกรุงไทยที่ให้กับกลุ่มกฤษดามหานครโดยมิชอบ หลังจากที่เมื่อวานนี้ จำเลย 3 คนไม่มาพบอัยการสูงสุด กรณีของนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายวันชัย หงษ์เหิน สามีของนางกาญจนาภา ไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง  นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ทั้งสองคนไม่ได้มาพบอัยการตามนัดเป็นครั้งที่ 2 จึงจะแจ้งประสานไปยังพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ติดตามตัวมาพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องโดยเร็ว ตามคำสั่งฟ้องร่วมฟอกเงินและสมคบฟอกเงินในการรับโอนเช็ค 26 ล้านบาท

+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอ ต้องรอหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีมาให้อัยการส่งฟ้อง เพราะที่ผ่านมาได้ส่งตัว 2 คน ให้พนักงานอัยการไปแล้ว แต่หากไม่พบตัวหรือมีพฤติการณ์หลบหนี จะขอให้ศาลอนุมัติหมายจับ ขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าบุคคลทั้งสองยังอยู่ในประเทศหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาได้รับการประสานจากผู้ต้องหาว่าจะมาฟังคำสั่งในชั้นอัยการ

+++ส่วนผู้ต้องหาอีกคน คือ นายมานพ ทิวารี บิดาของ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน นายประยุทธ กล่าวว่า นายมานพ ส่งสำเนาตั๋วเครื่องบิน มาอ้างว่าติดทำธุรกิจอยู่ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี พร้อมหนังสือขอเลื่อนนัดมายืนยันว่าจะมาพบอัยการในวันที่ 29 พ.ย. อัยการพิจารณาแล้วอนุญาต พร้อมกำชับให้มาในวันดังกล่าว จะไม่อนุญาตให้เลื่อนนัดอีก หากยังไม่เดินทางมาพบอัยการอีก โดยไม่มีเหตุ ก็จะแจ้งให้ดีเอสไอ นำตัวมามอบให้อัยการส่งฟ้อง

แฟ้มภาพ