+++เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย เร่งนำศพและชิ้นส่วนร่างกาย รวม 24 ถุง ขึ้นฝั่ง พร้อมเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หลังเกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737- MAX 8 สายการบินไลอ้อน แอร์ เที่ยวบิน JT 610 จาการ์ตา-ปังกัล ปีนัง ตกกลางทะเล หลังขึ้นบินจากสนามบินในกรุงจาการ์ตา เพียงแค่ 13 นาที เมื่อเช้าวันจันทร์ 29 ต.ค.มีผู้โดยสารและลูกเรือ 189 คน บนเครื่อง ทางการอินโดนีเซีย แถลงแล้วว่าไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าที่ประดาน้ำของอินโดนีเซีย 50 นาย ปฏิบัติภารกิจกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่งได้ราว 24 ถุงแล้ว และนำไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลท้องถิ่น Kramat Jati Police เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ท่ามกลางญาติของผู้โดยสารนับร้อยที่มารอติดตามความคืบหน้าด้านนอกโรงพยาบาล
+++นายมูฮัมหมัด เชากี หัวหน้าสำนักงานค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซีย ระบุว่า ทีมค้นหาและกู้ภัย ได้ใช้เครื่องมือสำรวจใต้น้ำลึกราว 30-35 เมตร ตรวจจับสัญญาณคลื่นเสียง เพื่อค้นหาจุดที่เครื่องบินตก บริเวณนอกชายฝั่งของเมืองการาวัง จังหวัดชวาตะวันตก
+++บีบีซี รายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าว มีปัญหาระหว่างเที่ยวบินจากบาหลีไปยังจาการ์ต้า มาแล้ว พบว่าอุปกรณ์อ่านความเร็วลมของกัปตันแสดงผลผิดพลาด และตัวเลขของอุปกรณ์อ่านค่าความสูงของกัปตันก็แตกต่างจากนักบินผู้ช่วย และแม้ว่าจะเกิดเหตุขัดข้อง นักบิน ยังสามารถนำเครื่องลงจอดยังสนามบินในกรุงจาการ์ตาได้อย่างปลอดภัย
+++แม้ว่า จะเกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว แต่สายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า ยังคงนำเครื่องบินรุ่น 737-MAX 8 ออกให้บริการ จนกว่าจะมีความชัดเจนจากผลการสอบสวนเหตุดังกล่าว
+++เรื่องพายุไต้ฝุ่นยวี่ถู่ (ภาษาจีน:กระต่ายหยก)ขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอนทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ด้วยความแรงลม 230 กม.ต่อชั่วโมง พายุเคลื่อนตัวไปยังทะเลตะวันตกของฟิลิปปินส์ อ่อนแรงลมมาอยู่ที่ 190 กม.ต่อชั่วโมง ความแรงของพายุ ทำให้หลังคาบ้านเรือนและอาคารบางแห่ง ปลิวตามแรงลม เสาไฟฟ้าและต้นไม้หักโค่น มีรายงานผู้เสียชีวิต บ้างแล้ว ก่อนหน้านั้น มีการอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยราว 10,000 คน ไปยังที่ปลอดภัย คาดว่า อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกระหว่างปานกลางถึงหนักมากในช่วง 24 ชม.ข้างหน้า
+++ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุซัดถล่มอิตาลีเพิ่มเป็น 10 ศพ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน ถนนหลายสายถูกตัดขาดและประชาชนหลายหมื่นคน ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ ในแถบตอนใต้และตอนกลางของยุโรป ขณะที่ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทำให้เกิดน้ำท่วม ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนและเศษซากถูกซัดปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า
+++ส่วนในสเปน ทหารกว่า 100 นาย ช่วยเหลือพาเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมไฟฟ้า เข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลต่างๆของแคว้นแอสทูเรียส ทางภาคเหนือของประเทศ ถูกปกคลุมด้วยหิมะตกหนักมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์จนถึงเมื่อวานนี้ ประชาชนอีกเกือบ 4,700 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้
+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะไปเยี่ยมตำรวจและผู้บาดเจ็บจากเหตุคนร้ายกราดยิงที่โบสถ์ชาวยิวในเมืองพิตต์สเบิร์กเมื่อวันเสาร์ แต่เจ้าบ้านหลายคนประกาศตัวว่าไม่ต้อนรับ ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่า จะไปเยี่ยมตำรวจและผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล จากเหตุคนร้ายวัย 46 ปีกราดยิงที่โบสถ์ชาวยิว ทำให้ผู้ประกอบพิธีทางศาสนาเสียชีวิต 11 คน เป็นเหตุร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับชุมชนชาวยิวในสหรัฐฯ
+++ด้านโบสถ์ในเมืองพิตต์สเบิร์กที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ยินดีต้อนรับประธานาธิบดีเสมอ แต่แกนนำชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้ออกจดหมายเปิดผนึกว่า ไม่ต้อนรับนายทรัมป์ หากไม่ประณามความรู้สึกชาตินิยมผิวขาวให้ชัดเจน จดหมายเปิดผนึกนี้มีคนร่วมลงชื่อแล้วกว่า 43,000 คน
+++ขณะที่ นายกเทศมนตรีเมืองพิตต์สเบิร์กสังกัดพรรคเดโมแครต เห็นว่า ประธานาธิบดีควรเลื่อนการเยือนออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ตรงกับพิธีฝังศพเหยื่อสองคนแรก เพราะการเยือนของประธานาธิบดีและเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยจะบดบังความสำคัญของพิธีฝังศพผู้เคราะห์ร้าย
+++ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี กล่าวต่อบรรดาผู้สื่อข่าว ในอาคารรัฐสภาตุรกี ในกรุงอังการา ว่า อัยการสูงสุดซาอุดิอาระเบีย ต้องสืบให้รู้ว่า ใครสั่งทีมสังหาร 15 คนไปตุรกี ผู้นำตุรกี เรียกร้องต่อนายอาเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เปิดเผยรายชื่อกลุ่มชาวตุรกี ที่เกี่ยวพันกับการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี ที่ถูกฆ่าหลังเข้าไปในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย ในเมืองอิสตันบูล ของตุรกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.เพื่อขอรับเอกสารสำหรับการแต่งงานกับหญิงสาวชาวตุรกี แต่ศพของเขายังไม่มีผู้ใดพบ
+++ชีค ซาอุด อัล-โมเจบ อัยการสูงสุดซาอุดิอาระเบีย ในฐานะหัวหน้าคณะสอบสวนเหตุการณ์ เดินทางเยือนตุรกีในสัปดาห์นี้ และได้พบกับนายอีร์ฟาน ฟิดาน อัยการสูงสุดตุรกี ได้ร้องขอให้ซาอุดิอาระเบีย ส่งตัวผู้ต้องสงสัยรวม 18 คน มาดำเนินคดีในตุรกี เนื่องจากเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นในอิสตันบูล
+++กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ รายงานว่า แรงงานสตรีฟิลิปปินส์ 17 คนในซาอุดิอาระเบีย ถูกขังในห้องขังของสถานีตำรวจในกรุงริยาดห์ หลังถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เข้าร่วมงานฉลองวันเทศกาลหลอนคืนปล่อยผีหรือวันฮาโลวีน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม การจับกุมของตำรวจมีขึ้นหลังเพื่อนบ้านร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจของซาอุดิอาระเบียว่าการจัดงานเลี้ยงเนื่องในวันเทศกาลฮาโลวีนของแรงงานฟิลิปปินส์ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ
+++ด้านนายอัดนัน อะลอนโต เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำซาอุดิอาระเบีย คาดว่า พวกเขาอาจจะถูกตั้งข้อหาความผิดฐานจัดงานเลี้ยงฉลองโดยไม่ขออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนหรือฐานสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งเตือนชุมชนชาวฟิลิปปินส์ในซาอุดิอาระเบียให้งดเว้นการจัดงานเลี้ยง การไปเข้าร่วมงานเลี้ยง หรือนัดรวมกลุ่มกันโดยไม่ได้อนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย จะไม่อนุญาตให้ผู้นับถือศาสนาอื่นนอกจากอิสลามจัดพิธีบูชาตามความเชื่อทางศาสนาของตนในที่สาธารณะ
+++นายนีลส์ เฮอเกิล อายุ 41 ปี อดีตบุรุษพยาบาลชาวเยอรมัน รับสารภาพระหว่างการไต่สวนนัดแรกของศาลว่าเขาฆ่าคนไข้ตายราว 106 ศพ นับว่าเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่อง นายเฮอเกิล เปิดเผยว่า เขาฉีดยาอันตรายเข้าเส้นเลือดของคนไข้ในความดูแลในโรงพยาบาล 2 แห่งคือโรงพยาบาลในเมืองโอเดนเบิร์กและอีกแห่งในเมืองเดลเมนฮอร์ส ซึ่งอยู่ใกล้กันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ โดยยาดังกล่าวอาจจะมีผลข้างเคียงคือทำให้คนไข้ที่มีอาการหัวใจกำเริบเสียชีวิตได้ในที่สุด
+++พนักงานอัยการ ระบุว่า เหตุจูงใจของอดีตบุรุษพยาบาลรายนี้เพื่ออวดเพื่อนร่วมงานว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญในการดูแลคนไข้เทียบเท่ากับแพทย์ แต่ปรากฏว่าทำให้คนไข้เสียชีวิต
+++ศาล ตัดสินจำคุกเขาตลอดชีวิตจากความผิดฐานฆ่าคนไข้ที่อยู่ในความดูแลรวม 6 ศพ แต่ขณะนี้เขาอยู่ระหว่างการถูกไต่สวนเพิ่มเติม กรณีการเสียชีวิตของคนไข้อีก 36 ศพในเมืองโอเดนเบิร์กและอีก 64 ศพในเมืองเดลเมนฮอร์ส ระหว่างปี 2542-2545 คาดว่า การไต่สวนคดีจะดำเนินไปจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
+++การสอบสวนคดีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากพนักงานอัยการใช้เวลาหลายปีในการสอบสวน โดยเฉพาะการให้คณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสารพิษตกค้างในศพรวม 130 ศพที่ถูกขุดขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง หลังสื่อท้องถิ่นตั้งข้อสังเกตว่าโรงพยาบาลต่างๆที่นายเฮอเกิลทำงานอยู่มีคนไข้เสียชีวิตมากผิดสังเกต
CR:CNN