การสัมมนา "สนช.ปลดล็อคกัญชา เป็นยารักษาโรค" ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ร่วมกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวเปิดการสัมมนาว่า ปัจจุบันกัญชาถูกจัดอยู่ในยาเสพติดประเภทที่ 5 ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมีงานวิจัยของหลายประเทศที่ว่ากัญชามีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งการรักษาและการใช้ทางวิทยาศาสตร์ จนมีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้ปลดล็อค แต่ปัญหาคือ การปรับแก้กฎหมายนั้นค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลา แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถแยกเนื้อหาเฉพาะออกมาได้ เพื่อให้กฎหมายครอบคลุมขึ้น
ด้านนายแพทย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สนช. บอกว่า ปัจจุบันร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่มีการปรับแก้ไขเพื่อเปิดทางให้นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ได้กำลังจะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของสนช. แต่คาดว่าคงจะพิจารณาผ่านร่าง 3 วาระ ไม่ทันก่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับนี้ก็จะตกไป จากนั้นต้องลุ้นว่ารัฐบาลและรัฐสภาชุดใหม่จะหยิบมาพิจารณาต่อหรือไม่ ทำให้กำลังพิจารณาหาทางออกร่วมกันเพื่อให้กฎหมายออกทันในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพบทางออก 2 วิธี วิธีแรกคือ เสนอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้ ม.44 วิธีที่สองคือดำเนินการตาม ม.113 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ให้สมาชิกสนช.เข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายได้
นายแพทย์ เจตน์ ยังย้ำว่า กัญชาไม่ใช่ยาสารพัดโรคและยังไม่มีการรับรองในทางการแพทย์ว่าสามารถรักษามะเร็งได้ตามที่หลายคนเข้าใจจนนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยสามารถใช้รักษาได้เพียงบางโรคเท่านั้น พร้อมย้ำว่า การเปิดให้ใช้กัญชาในไทยจะเป็นไปเฉพาะเพื่อการแพทย์และการวิจัยพัฒนาเท่านั้น จะไม่ไปถึงขั้นการใช้เพื่อสันทนาการอย่างประเทศแคนาดาหรืออุรุกวัย
...
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร