คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำมีทางออกหากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ แนะควรให้หาเสียงได้แล้ว

หลังการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในตำแหน่งประธานดังกล่าวก็จะรับผิดชอบดูแลการเลือกตั้งเป็นหลัก มั่นใจว่านโยบายพรรคจะดีพอ ชนะใจประชาชนได้แน่ เพราะได้ศึกษาเตรียมไว้แล้ว ซึ่งจุดแข็งก็คือการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและนำมาสานต่อ ทั้งนี้อย่าบอกว่าตัวเองน้อยใจที่ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะได้พูดแต่แรกแล้วว่าจะไม่ขอเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนแคนดิเดตรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่พรรคจะเสนอ มองว่ายังยาวไปที่จะคิด รอให้ถึงเวลาก่อน ถ้าเร่งทำแต่ตอนนี้อาจผิดกฎหมายได้ พร้อมขออย่ามองว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะลงเป็นนายกฯไม่ได้ เพราะส่วนตัวก็มองว่าพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ว่าที่หัวหน้าพรรค ก็มีความเหมาะสมและเป็นคนดี ซึ่งถ้าพล.ต.ท.วิโรจน์ ลงรับเสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็จะโหวตให้ ส่วนถ้ามีการเสนอชื่อตัวเองเป็นนายกฯ ก็ต้องหารือในพรรคก่อน แต่มั่นใจว่าพรรคจะเสนอชื่อนายกฯที่มีคุณภาพได้
ส่วนที่เป็น1ในคณะกรรมการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องดูพื้นที่ใดเป็นพิเศษหรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ ระบุว่า เลือกตั้งครั้งนี้ต้องดูทั่วประเทศ และพรรคจะพยายามคว้าที่นั่งในสภาให้มากที่สุด แต่ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขว่าจะได้เท่าใด ส่วนตัวจะลงแบบเขตหรือปาร์ตี้ลิสต์นั้นขอรอดูการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก่อน ส่วนที่มีการมองว่ามีพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นใหม่หลายพรรค จะเป็นการตัดฐานเสียงกันเองหรือไม่ ถึงเวลาจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมีพรรคเดียว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกยุบพรรค ตัวเองไม่กลัว เพราะมีทางออกหลายทางรองรับแล้ว พร้อมมั่นใจว่าพรรคไม่มีความผิด แต่การถูกยุบก็เกิดขึ้นได้ ถ้าผู้มีอำนาจต้องการเล่นงานพรรคเหมือนที่เคยโดนกระทำมาแล้วทั้งที่ศาลตัดสินว่าไม่ผิด แต่ขอให้มั่นใจว่าแกนนำพรรคทุกคนมีชีวิตไปต่อแน่นอน
คุณหญิง สุดารัตน์ ยังมั่นใจว่า พรรคจะไม่แตกแยกและไม่มีปัญหาเรื่องความสามัคคีในพรรค แม้ขณะนี้คนในพรรคจะมีความแตกต่างทางความคิดอยู่มาก เพราะนั่นเป็นแค่วิถีทางประชาธิปไตย
และเตรียมดึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในพรรค เช่น นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง มาร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านต่างๆที่ตัวเองเตรียมตั้งขึ้นเพื่อไว้สู้ศึกการเลือกตั้งด้วย พร้อมย้ำว่าตัวเองเป็นแค่หนึ่งในฟันเฟืองของพรรคที่มีประสบการณ์และความรู้มาช่วยงานพรรคได้เท่านั้น โดยขณะนี้ควรปล่อยให้มีการหาเสียงได้แล้ว แต่ผู้มีอำนาจกลับไม่ยอมทำ

ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผู้สื่อข่าว