นายจิม แม็ตทิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุมผู้นำชาติอาหรับที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ว่า รัสเซีย คงไม่สามารถแทนที่สหรัฐฯ ได้ในตะวันออกกลาง แม้รัสเซียจะเข้ามาแสดงบทบาทแทรกแซงทางทหารในซีเรีย โดยนายแม็ตทิส ชี้ว่า รัสเซียมองข้ามความเคลื่อนไหวด้านอาชญากรรมของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอะซัด ของซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไม่ยึดมั่นในหลักการด้านศีลธรรมอันจำเป็น
นายแม็ตทิส กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประธานาธิบดีซีเรีย ยังครองอำนาจทั้งที่มีประชาชนเสียชีวิตในสงครามกลางเมืองซีเรียกว่า 360,000 คน นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและการใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ของรัสเซีย ในการออกข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ถ้อยแถลงของนายแม็ตทิสมีขึ้น ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีกำหนดจัดการเจรจากับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี และตุรกีที่นครอิสตันบูล ในวันนี้ เพื่อแสวงหาแนวทางการเมืองแก้ไขปัญหาในซีเรีย
ขณะที่ โฆษกประธานาธิบดีตุรกี แถลงว่า เป้าหมายเบื้องต้นของการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำตุรกี รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมนีคือ การกำหนดโรดแม็พและหารือความกระจ่างในขั้นตอนการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ส่วนกรณีการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย ประจำนครอิสตันบูล ตุรกี นายแม็ตทิส กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเราทุกคน สหรัฐฯ จะไม่ยินยอมให้เรื่องดังกล่าวเงียบ หรือปล่อยให้ประเทศใด ซึ่งไม่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมและบรรทัดฐานระหว่างประเทศ บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลางในช่วงเวลาที่ภูมิภาคดังกล่าวต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เพิกถอนวีซ่าชาวซาอุดิอาระเบียแล้วหลายคนเมื่อวันอังคาร และอังกฤษ ก็ดำเนินการตามอย่าง และคาดว่า ยังคงมีอีกหลายมาตรการตามมา
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP