การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน ที่ประกอบด้วย นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นาย อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงสุดท้ายผู้ดำเนินรายการได้เปิดโอกาสให้ทั้ง 3 คน กล่าวแสดงวิสัยทัศน์สดคนละ 3 นาที นาย อภิสิทธิ์ บอกว่า การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคในวันนี้ถือเป็นวิธีการใหม่ของการเมืองไทย ซึ่งต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคเป็นผู้นำทางการเมืองอย่างแท้จริง และไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปครองในการหยั่งเสียงครั้งนี้ก็ต้องตระหนักว่าหัวหน้าพรรคมีหน้าที่ต้องเร่งนำประเทศออกจากหล่มวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมืองตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาโดยเร็ว และต้องไม่เข้าร่วมกับเผด็จการและพรรคการเมืองที่ทุจริต ถ้าตัวเองได้เป็นประธานอาเซียนในปีหน้าก็จะขออาสานำพาประเทศไทยที่เป็นประธานอาเซียนในปีหน้าก้าวเป็นหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน นาย อภิสิทธิ์ ยังระบุว่า ตลอดเวลา 27 ปีตัวเองบนเส้นทางการเมืองได้ทุ่มเทให้พรรคมาตลอด ขณะนี้มีนโยบายหลายอย่างที่ต้องการทำให้ประเทศ จึงขอโอกาสพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง
ด้านนายแพทย์ วรงค์ บอกว่า ถ้าแพ้จะร่วมมือกับสมาชิกในพรรคทุกเงื่อนไขเพื่อช่วยเหลือพรรคต่อไป โดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ส่วนตัวต้องการให้บ้านนี้เข้มแข็ง พร้อมขอให้ทุกคนสบายใจในการดีเบตครั้งนี้ พร้อมรับว่า 1 เดือนที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยเหมือนช่วงที่สู้กับระบอบทักษิณและยังรู้สึกอ้างว้าง เพราะมีสมาชิกในพรรคหลายคนไม่ยอมคุยด้วย แต่ย้ำว่าไม่ว่าผลเป็นเช่นไรพรรคนี้จะเป็นพรรคสุดท้ายในการเล่นการเมืองในชีวิตตัวเอง
ส่วนนาย อลงกรณ์ บอกว่า ถ้าระหว่างเลือกตั้งมีการส่อทุจริตของผู้สมัครชิงตำแหน่งส.ส.ของพรรค จะให้ผู้ส่อทุจริตลาออกทันทีเพื่อสร้างความศรัทธาให้ประชาชน เชื่อว่าถ้าทำเช่นนี้ได้ พรรคจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างแน่นอน พร้อมขอโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง หลังจบการดีเบต สมาชิกพรรคที่เป็นแฟนคลับของผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแต่ละคนต่างนำดอกไม้มาให้กำลังใจผู้สมัครที่ตัวเองชื่นชอบ พร้อมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจดังเป็นระยะด้วย
สำหรับการดีเบตวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในการหาเสียงของผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะมีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่คนที่ 8 ในวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2561 โดยกำหนดไว้สองช่องทางคือ หยั่งเสียงเลือกผ่านแอพพลิเคชั่นที่พรรคจัดตั้งขึ้น และที่หน่วยเลือกตั้งที่พรรคกำหนดไว้ตามแต่ละจังหวัด โดยผู้ที่มีสิทธิหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นสมาชิกพรรคแล้วเท่านั้น