ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันที่ 26 ตุลาคม 2561

+++มาตรการดูแลเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ให้กระทรวงการคลัง คิดมาตรการดูแลเศรษฐกิจล่วงหน้า เพราะเศรษฐกิจโลกปีหน้า จะหดตัวลงเพราะปัญหาสงครามการค้า หากยังพึ่งพาการส่งออกอย่างเดียวไม่มีเศรษฐกิจในประเทศช่วยจะลำบาก จึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายใน โดยได้ขอเงินงบประมาณปี 2562 จำนวน 1 แสนล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ปัจจุบันกองทุนนี้มีงบอยู่ราว 5 หมื่นล้านบาท ก็ให้เพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาท เน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ผ่านมายังได้รับความช่วยเหลือน้อย ให้กระทรวงการคลัง สรุปมาตรการช่วยเหลือให้เสร็จภายในปีนี้ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) และจะเริ่มได้ในปีนี้

+++ส่วนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว  กระทรวงการคลัง จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการบินไทย เพื่อออกแพ็คเกจ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะต้องสรุปเสนอครม.ภายในกลางเดือนพ.ย.ถึง ธ.ค.นี้ เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่  หัวใจหลักคือเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

+++นายสมคิด นัดหารือกับนายวีรศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับการหารือของนักท่องเที่ยวจีน และภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยว

+++เมื่อวานนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ระดับ 1,644.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,086.34 ล้านบาท นักวิเคราะห์ มองว่า ตลาดหุ้นไทย ยังมีปัจจัยลบหลายอย่างทำให้ตลาดผันผวนสูง ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) 

+++ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งแรง ฟื้นตัว หลังร่วงลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งหุ้นของไมโคซอฟต์, เทสลา มอเตอร์ ตามหลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัท ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 401.13 จุด ปิดที่ 24,984.55 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 49.47 จุด  ปิดที่ 2,705.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 209.94 จุด ปิดที่ 7,318.34 จุด

+++เมื่อวันพุธ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงกว่าร้อยละ 2  จากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการบริษัท, อัตราดอกเบี้ยระดับสูง, ความไม่แน่นอนของเบร็กซิต, เหตุกระทบกระทั่งด้านงบประมาณระหว่างอิตาลีกับอียู, แรงกดดันต่อซาอุดิอาระเบียต่อกรณีการเสียชีวิตของนักหนังสือพิมพ์คนดังและศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯที่กำลังมาถึง

+++ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 51 เซ็นต์ ปิดที่ 67.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 72 เซ็นต์ ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ราคาทองคำ ปิดบวกเล็กน้อย หลังดอลลาร์อ่อนค่า ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,232.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++การลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ ของพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เพื่อไปติดตามปัญหาหนี้นอกระบบ ตรวจค้นหลายจุดและได้ผู้ต้องหาที่เป็นนายทุน พร้อมทั้งหลักฐานจำนวนมาก ในวันนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พร้อมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มอบคืนโฉนดที่ดินให้กับประชาชน เป็นการนำโฉนดที่ดินที่ถูกนายทุนหลอกปล่อยให้กู้ยืมเงินหนี้นอกระบบ แล้วนำโฉนดที่ดินของชาวบ้านมาเป็นของตนเอง เบื้องต้น มีการมอบโฉนดคืนให้ประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งหมดประมาณ 7,000 กว่าไร่ เป็นเงินทั้งหมด หนึ่งหมื่นแปดพันกว่าล้านบาท

+++เจ้าหน้าที่ให้ น.ส.วรารัตน์ กระแสร์ หรือดีเจซัน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีทารุณกรรมแมว มาพบในวันที่ 29 ต.ค. หลังจากที่เลื่อนเข้าพบ พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า ชุดคลี่คลายคดีดำเนินการออกหมายค้นที่พักของน.ส.วรารัตน์ ทั้งที่บ้านพ่อกับแม่ ย่านทวีวัฒนา และห้องพักที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนกรุงธนบุรี ซอย 1 พบหลักฐานสำคัญที่น่าจะมีความเชื่อมโยงกับข้อหา กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามหมายเรียกหลายประการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซีพียูคอมพิวเตอร์ รวมถึงหนังสือวรรณกรรมภาษาญี่ปุ่นรวม 16 เล่ม มีหนังสือ 2 เล่ม ที่ผู้เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่น ระบุมาแล้วว่า เนื้อหาส่อไปในแนวเปิดเผยวิธีการทารุณกรรมทรมานต่อทั้งคนและสัตว์อย่างรุนแรง พนักงานสอบสวน รวมรวบหลักฐานทั้งหมดส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน 

แฟ้มภาพ