+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทำกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดิน เพื่อรับฟังปัญหาประชาชนและรับสมัครสมาชิกพรรคทั่วประเทศ จะขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)หรือไม่ ว่า กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองใดที่ดำเนินกิจกรรมในขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้เตือนและแจ้งให้ทราบแล้วว่าจะมีการบันทึกไว้ทั้งหมด ถ้ามีการร้องเรียน หรือมีการตีความ ก็ต้องรับผลในสิ่งที่เกิดขึ้น ในส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตีความ ทั้งนี้ คนที่ทำก็ต้องระมัดระวัง อย่าได้ทำผิดกฎหมาย
+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.ชี้แจงว่า ทุกกลุ่มที่จัดกิจกรรมได้แจ้งกกต.ตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2561 ที่กำหนดเงื่อนไขไว้ ซึ่งการแจ้งไม่ใช่การอนุมัติ เพราะตามคำสั่ง ให้เพียงแจ้งให้ กกต.ทราบเท่านั้น
+++การประชันวิสัยทัศน์ (ดีเบต) ของผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะเลขานุการ กกต.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ เริ่มดีเบต 16.00-17.30 น. คณะกรรมการ กกต.ของพรรค ได้จัดการดีเบตผู้สมัครทั้ง 3 คน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ , นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร ซึ่งจะมีรูปแบบที่น่าสนใจ คือ การเชิญสื่อ 3 ราย มาเป็นตัวแทนสื่อ เพื่อตั้งคำถาม 3 คำถาม นอกจากนี้ ยังมีคำถามจากคนรุ่นใหม่ หรือตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ 3 คำถาม และคำถามที่คัดเลือกจากประชาชนที่ส่งเข้ามาทางเพจพรรค และ ไลน์ @ DemocratPartyTH อีก 3 คำถาม รวมทั้งหมด 9 คำถาม เพื่อให้ผู้สมัครตอบอย่างกระชับในเวลาที่กำหนด รายงานระบุว่า สื่อมวลชนเริ่มลงทะเบียน พร้อมรับบัตรเข้างานดีเบต 3 ผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เวลา 14.00 น. ประตูห้องดีเบต จะปิดเวลา 15.30 น. งดการเข้า-ออก
+++ผลสรุปการยื่นคำขอลงทะเบียนองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ กกต.จังหวัดทั่วประเทศ เปิดรับลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-24 ตุลาคม 2561 เลขาฯ กกต.เปิดเผยว่า มีองค์กรมาลงทะเบียน 476 องค์กร จาก 71 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดที่มีองค์กรมาลงทะเบียนมากที่สุด 6 อันดับ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 115 องค์กร , สระแก้ว 52 องค์กร , นนทบุรี 18 องค์กร และ นครราชสีมา ราชบุรี สมุทรปราการ 14 องค์กร โดยจังหวัดที่ไม่มีองค์กรไปลงทะเบียน จำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย บึงกาฬ , แม่ฮ่องสอน , ระนอง , เลย , สตูล และอุทัยธานี เชื่อว่าในจังหวัดที่ไม่มีองค์กรมาลงทะเบียน จะไม่มีปัญหา เพราะยังมีผู้สมัครอิสระไปสมัครได้
+++กลุ่มอาชีพที่มีผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข จำนวน 87 องค์กร 2.กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ จำนวน 86 องค์กร 3. กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมงจำนวน 79 องค์กร 4.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง จำนวน 51 องค์กร และ 5.กลุ่มอื่นๆ (ผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่น ๆ) จำนวน 41 องค์กร
+++หลังจากนี้ ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม ผอ.กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร จะตรวจสอบคุณสมบัติองค์กร และพิจารณาคำร้องคัดค้าน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน จากนั้นองค์กรที่ได้รับการรับรองก็สามารถส่งรายชื่อผู้สมัคร สว.ได้
+++ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่ง ด้วยสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้ นายพนม ศรศิลป์ ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม 2561 เนื่องจาก เป็นผู้ต้องหาถูกจับในคดีอาญา และได้ถูกขังเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าสิบห้าวัน โดยพนักงานสอบสวนได้ขอฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ ฝ.35/2561 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว บัดนี้ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ประกาศ ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ผู้รับสนองพระราชโองการ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
+++พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ต้องขัง ถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำกลางคลองเปรม ว่าได้รับการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ และเกิดกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้การดูแลนายบุญทรงเป็นอย่างดี กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ได้ส่งตัวนายบุญทรงไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และต้องนั่งรถเข็น แต่เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาล ไม่มีแพทย์และเครื่องมือเฉพาะทางที่ทันสมัยพอที่จะรักษาอาการป่วยของนายบุญทรงได้ จึงได้นำตัวออกไปรักษาอาการป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ตามใบนัดหมายจากนายแพทย์เจ้าของไข้จากโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเตรียมการผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือกระดูกต้นคอ เมื่อตรวจรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรือนจำ จะนำตัวกลับมาควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามเดิม
+++การส่งตัวผู้ต้องขัง ออกไปรักษาพยาบาลภายนอก ต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปอย่างใกล้ชิด จำนวน 2 นาย และในกรณีต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ผลัดละ 2 นาย โดยต้องควบคุมเฝ้าดูผู้ต้องขังอย่างเคร่งครัดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ มิได้มีสิทธิพิเศษ
+++ศาลอุทธรณ์ ส่งคำสั่งการพิจารณาประกันตัวของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาให้ศาลจังหวัดมีนบุรี อ่านต่อหน้าจำเลย โดยมีคำสั่งให้ปล่อยตัวจำเลยชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์คดี ตีราคาประกัน 5 แสนบาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไข
+++ทนายความ เปิดเผยว่า ยังไม่ขอพูดถึงแนวทางคดี เสก ยังมีอาการป่วยไบโพลาร์อยู่ ขอให้ทุกคนเห็นใจในจุดนี้ด้วย เราก็มีใบรับรองแพทย์และยาให้ศาลเห็น โดยการรักษาต้องมีความต่อเนื่อง ส่วนจะใช้เวลาเท่าไร เป็นดุลยพินิจของแพทย์
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิด 1,644.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.96จุด มูลค่าการลงทุน 76,086.34 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ปิดร่วงลง 822.45 จุด ปิดที่ระดับ 21,268.73 จุด เป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ลดลง 255.32 จุด ปิดที่ 24,994.46 จุด
+++บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานอ้างรศ.นาโอยา เซกิยา จากศูนย์วิจัยข้อมูลเรื่องภัยพิบัติแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยกรุงโตเกียวว่าผลสำรวจของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรุงโตเกียวและบริษัทวิจัยเอกชนแห่งหนึ่ง สอบถามความเห็นของประชาชน 800 คน อายุ 20 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในเมืองโอซากะ โดยสำรวจผ่านทางระบบออนไลน์เมื่อเร็วๆนี้ พบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่างๆมากมายเกี่ยวกับการบริการด้านสาธารณูปโภคและระบบขนส่งสาธารณะของรัฐ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ในเมืองโอซากะ เมื่อเดือนมิถุนายน
+++ผลสำรวจ ชี้ว่า ประชาชนร้อยละ 65.8 เชื่อว่า ระบบประปา จะถูกตัดในเมืองมิโน ทางตอนเหนือของจังหวัดโอซากะ ขณะที่ ร้อยละ 46.3 คิดว่า รถไฟที่สถานีฮังเคียวจะตกราง นอกจากนี้ เกือบร้อยละ 40 ของคนที่ได้รับข้อมูลเท็จได้ส่งต่อข้อมูลให้กับญาติ เพื่อนและคนรู้จัก โดยไม่มีการตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อมูลก่อน
+++เมื่อเดือนที่แล้ว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวบนเกาะฮอกไกโดทางภาคเหนือของประเทศ ผลสำรวจพบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในเรื่องการบริการโทรศัพท์มือถือและการประปาผ่านสื่อออนไลน์เช่นเดียวกัน
+++รศ.เซกิยา สรุปว่า ความรู้สึกวิตกกังวลของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย อาจจะเป็นปัจจัยข้อหนึ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนั้น พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าประชาชนได้ส่งข้อมูลต่างๆที่ได้รับ ต่อๆกันไปด้วยความหวังดี แต่ท้ายที่สุดปรากฏว่าเป็นการเผยแพร่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง เขาเสนอแนะว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยราชการและบริษัทเอกชนที่ให้บริการระบบสาธารณูปโภคสำคัญๆจะแจ้งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้สาธารณชนได้ทราบเป็นระยะๆ เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อออนไลน์
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายโจ ฮอลล์ หัวหน้าตำรวจประจำเทศมณฑลบาร์โทว์ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯว่า นักเรียนหญิง 2 คน อายุ 11 ปี และ 12 ปี จากโรงเรียนบาร์โทว์ มิดเดล สคูล ในเทศมณฑลบาร์โทว์ รับสารภาพ หลังถูกจับกุมเมื่อวานนี้ว่า ถือมีดรออยู่ในห้องน้ำของโรงเรียน วางแผนจะใช้มีดแทงฆ่าเพื่อนร่วมห้องที่ตัวเล็กกว่าจำนวน 15 คน แล้วดื่มเลือด กินเนื้อและจะฆ่าตัวตายตาม นักเรียนทั้งสองคน บอกกับตำรวจว่า พวกเขาบูชาลัทธิซาตาน(ปีศาจ) แต่แผนการของทั้งสองคนล้มเหลว หลังระบบโทรศัพท์อัตโนมัติของโรงเรียนโทรไปถึงบ้านของ 1 ในนักเรียน 2 คน แจ้งพ่อแม่ของเธอว่าลูกสาวหายไปจากห้องเรียน
+++แม่ของนักเรียนหญิงคนดังกล่าว จึงโทรกลับไปที่โรงเรียน เพื่อแจ้งกับโรงเรียนว่าลูกสาวไปเรียนตามปกติ ต่อมาผู้ช่วยครูใหญ่ จึงตรวจค้นจุดต่างๆและไปเจอนักเรียนหญิงทั้ง 2 คนอยู่ในห้องน้ำ ท่าทางมีพิรุธ เข้าห้องน้ำนานผิดปกติ จึงขอเข้าไปตรวจห้องน้ำ จึงพบว่า 1 ในนักเรียนหญิง 2 คน พกมีด 2 เล่มคือมีดแล่เนื้อ 1 เล่มและมีดทำครัวอีก 1 เล่ม ส่วนนักเรียนอีกคนหนึ่งมีคัตเตอร์ 1 เล่ม และเตรียมถ้วยแก้วสำหรับดื่มเหล้า 1 ใบ จึงพานักเรียนทั้งสองไปพบครูใหญ่เพื่อสอบปากคำ สาเหตุที่ไม่เข้าชั้นเรียน และแจ้งความให้ตำรวจ เพื่อสอบสวน
+++ตำรวจ สอบสวนขยายผลลงพื้นที่ไปตรวจค้นบ้านของนักเรียนทั้งสองคน พบแผนที่เขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า จงไปฆ่าคนในห้องน้ำ และพบโน้ตย่ออีกชิ้นหนึ่งมีข้อความว่าวันนี้เรียนวิชาสุขศึกษา ขอบคุณซาตาน(ปีศาจ) พวกเราจะทำงานนี้ให้สำเร็จ ตำรวจชื่นชมเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่ดำเนินการต่างๆโดยเฉพาะการติดตามค้นหานักเรียนในเวลาที่รวดเร็วหลังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองถึงพฤติกรรมต้องสงสัยต่างๆของนักเรียน และจะมีการจัดนักจิตวิทยาและตำรวจเข้าไปปฏิบัติงานโรงเรียนนั้นเพิ่มเติมอีกในสัปดาห์นี้ ตำรวจ ตั้งข้อหานักเรียนทั้ง 2 คน ในความผิดฐานสมคบกันเพื่อก่อเหตุฆาตกรรม แอบนำอาวุธเข้าไปในโรงเรียนและสร้างความวุ่นวายขึ้นในโรงเรียน
แฟ้มภาพ