หลังการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยา พร้อมคณะ ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และนายมหาเธร์ ร่วมกันแถลงข่าว โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากได้ร่วมกันหารือได้ข้อสรุปว่าในครั้งนี้มาเลเซีย จะให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ โดยฝ่ายมาเลเซีย จะเป็นฝ่ายอำนวยความสะดวกในการพูดคุย โดยเป็นผู้ประสานงานระหว่าง 2 ฝ่าย อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงจะขยายความร่วมมือในความมั่นคง การแก้ปัญหาการร้าย ปัญหายาเสพติด เศรษฐกิจชายแดนระหว่างประเทศ และความมั่นคง ขณะเดียวกัน จะยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันการค้าระหว่างชายแดน และสุดท้ายคือความร่วมมือระหว่างอาเซียน ซึ่งปีหน้าไทยจะเป็นประธานอาเซียน โดยมีเป้าหมายให้ประชาคมอาเซียนมีความเข้มแข็ง มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและก้าวไปพร้อมกัน พร้อมเชื่อมโยงกันในทุกมิติ
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ในการเยือนไทย เพราะอยากสร้างความคุ้นเคยกับอาเซียน หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องขอขอบคุณนายกฯและรัฐบาลไทยสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น และการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา เราไม่มีปัญหาระหว่างกัน และเรามีประวัติศาสตร์ความร่วมมือในอดีต ซึ่งมาเลเซียเคยมีปัญหาและไทยได้ให้การสนับสนุนเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว ก็ขอขอบคุณไทยในด้านนี้ ปัจจุบันไทยมีปัญหาชายแดนใต้ เราก็ยินดีที่จะช่วยไทยในทุกด้านเพื่อแก้ไขความรุนแรง และพร้อมที่จะสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ที่มีอุปสรรค ในทุกทางที่เป็นไปได้ กรณีประชาชนถือสองสัญชาติ ต้องมีความพยายามแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดการค้ามนุษย์และการขนส่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย ในส่วนตัวมั่นใจ ด้วยว่า ความร่วมมือของสองประเทศ จะทำให้สามารถแก้ไขและลดปัญหานี้ได้ และเห็นว่าการแสดงมิตรภาพไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุย แต่ต้องเป็นการปฏิบัติอย่างแท้จริงในฐานะมิตรที่ใกล้ชิด
นอกจากนี้ ในส่วนของการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย ในปีนี้ มีมูลค่าสูงขึ้นร้อยละ 17 มูลการค้า 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าได้ เมื่อแก้ปัญหาเรื่องด่านศุลกากร ที่ปัจจุบันมีจุดผ่านแดน 4 ด่าน ที่รัฐกลันตัน 2 ด่าน และรัฐเคดาห์ และรัฐเปอร์ลิส
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างลังกาวีและจ.สตูล ของไทยมีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองของสองประเทศ เราควรพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ของประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะบรรลุตามเป้าหมายนี้ โดยมาเลเซีย จะเปิดด่านศุลกากร 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้า และจะมีการสร้างสะพาน 2 สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่เชื่อมกับรัฐกลันตัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีปัญหาเส้นทางถนน เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม , ปิยะธิดา เพชรดี