หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประจำจังหวัดทุกจังหวัด เปิดรับลงทะเบียนองค์กรที่ประสงค์เข้าร่วมเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ตั้งแต่วันที่ 15ต.ค.จนถึงวันนี้ บรรยากาศที่สำนักงานกกต.กรุงเทพฯ ที่ศูนย์ราชการฯ เป็นไปอย่างคึกคัก ตลอดทั้งวัน มีองค์กรมาลงทะเบียนเฉพาะที่กกต.กรุงเทพฯ ประมาณ 121 องค์กร รวมตลอดเวลาที่เปิดรับสมัครมีองค์กรมาลงทะเบียนที่กกต.กรุงเทพฯรวม 182 องค์กร
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. สรุปว่า นับตั้งแต่วันเปิดรับสมัครจนถึงเมื่อวานนี้ มีองค์กรมาลงทะเบียนรวมทั่วประเทศ 229 องค์กร โดยกกต.กรุงเทพฯเป็นสถานที่ที่มีองค์กรมาลงทะเบียนมากที่สุด ขอรอดูผลวันนี้ที่คาดว่าจะทราบยอดที่แน่นอนประมาณ 20.00น.ก่อน จากนั้นวันพรุ่งนี้เวลา 13.30น. จะแถลงผลสรุปการรับลงทะเบียน ยืนยันว่า จะไม่ขยายเวลาให้องค์กรมาลงทะเบียนเพิ่มแน่นอน หากผู้ใดพลาดก็ยังมีช่องทางเสนอชื่อเป็นส.ว.ด้วยตัวเองอีกช่องทางอยู่ และหลังลงทะเบียน กกต.ประจำจังหวัดจะเร่งตรวจสอบความถูกต้อง คาดว่าไม่เกินวันที่ 29 ตุลาคม ก็แล้วเสร็จ จากนั้นจะต้องส่งผลมายังกกต.กลางให้ประกาศผลและเปิดให้องค์กรต่างๆร้องคัดค้านได้ คาดว่า กกต.กลางจะส่งใบประกาศผลองค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเป็นส.ว.ต่อผู้อำนวยการกกต.ระดับอำเภอ ภายในวันที่ 14-22 พฤศจิกายน ต่อไป
สำหรับส.ว.ที่มาจากการเลือกในช่องทางนี้ จะใช้วิธีเลือกกันเองโดยตรงในกลุ่มทั้งสิ้น 10 กลุ่มอาชีพตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจะถูกนำไปรวมกับผู้ที่มาเสนอชื่อเป็นส.ว.ด้วยตัวเองเพื่อทำการเลือกต่อไป โดยตามปฏิทินกกต.จะประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งส.ว.ได้ในวันที่ 16 พฤศจิกายน จากนั้นจะเข้าสู่การรับสมัครส.ว.ในวันที่ 26-30 พฤศจิกายน ก่อนจะให้ผู้สมัครเลือกกันเองไล่ขึ้นมาตั้งแต่ระดับอำเภอ, จังหวัด และประเทศ ระหว่างวันที่ 16-27 ธันวาคม คาดว่าในวันที่ 2 มกราคม 2562 กกต.ก็จะสามารถส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกให้เป็นส.ว.ทั้ง 200 คนให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พิจารณาต่อได้ โดยคสช.มีเวลาคัดจาก 200 ให้เหลือตัวจริงและตัวสำรองอย่างละ 50 คนภายในปลายเดือนเมษายน 2562 จากนั้นคสช.ต้องนำรายชื่อตัวจริงทั้ง 50 คนนี้ไปรวมกับรายชื่อส.ว.อีก 200 คนที่มาจากการเลือกเองของคสช.ให้ครบตามจำนวน 250 คนแล้วนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งส.ว.ทั้ง 250 คนที่จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร