ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตคนล็อกคอฆ่า 'น้องปอนด์' ส่วนคนฆ่าจำคุก 25 ปี 6 เดือน

24 ตุลาคม 2561, 12:28น.


ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ ปอนด์ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี วัย 24 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ใช้ไขควงแทงที่ศีรษะเสียชีวิตภายในหอพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งมีจำเลยในคดีทั้งหมด 14 คน ประกอบไปด้วย นายกรกนก หรือ อาร์ท วรัญญสาธิต อายุ 22 ปี, นายเดชาธร หรือ ไบรท์ มูลมณี อายุ 20 ปี, สิบตรีชลินธร หรือ บิ๊ก แก่นสาร อายุ 20 ปี, นายญาณวัฒน์ หรือ ปาล์ม ทิพย์เที่ยงแท้ อายุ 19 ปี, นายเรวัต หรือ เต้ย วงศ์ขยาย อายุ 20 ปี, นายกฤตนันท์ หรือ ปาล์ม เนียมเงิน อายุ 20 ปี, นายเศรษฐา หรือ เติ้ล อุปถัมภ์ อายุ 26 ปี, นายธีรพัฒน์ หรือ อั้ม โพธิสุทธิ์ อายุ 19 ปี, นายธีรธานนท์ หรือนนท์ ทัพนาค อายุ 20 ปี, นายภาคิน หรือ มิค เสือนาค อายุ 18 ปี, นายศุภสิทธิ์ หรือแป้ง ดีท้วม อายุ 20 ปี, นายอธิบดี หรือซีม กุญแจทอง อายุ 21 ปี, นายชินกิตติ์ หรือกิต อรรถวรรธน อายุ 18 ปี และนางสาวมาริสา หรือลูกหมี เงินทอง อายุ 20 ปี ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายแก่กาย, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร โดยมีอาวุธโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร


คดีนี้ มีเพียงจำเลยที่ 2 คือนายเดชาธร หรือไบรท์ มูลมณี ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนจำเลยอื่น ๆ ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว


ศาลได้อ่านคำพิพากษา พิจารณาแล้วเห็นว่า พยานโจทก์และโจทก์ร่วมมีประจักษ์พยาน และวัตถุพยานเป็นภาพวงจรปิด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-13 ได้กระทำการตามฟ้องจริง บุกรุกโดยมีเหตุฉกรรจ์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ได้รับอันตราย และเสียชีวิต โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ร่วมฆ่าผู้ตาย มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ล็อกคอให้จำเลยที่ 2 ใช้ไขควงแทงผู้เสียชีวิตบริเวณขมับขวา จึงพิพากษาจำเลยที่ 1 จำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น จำเลยที่ 2 จำคุก 25 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและบุกรุกเคหะสถาน จำเลยที่ 3, 10, 12 คนละ 1 ปี ฐานบุกรุกเคหะสภานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย จำเลยที่ 4, 5, 6, 11 จำคุก 11 ปี ฐานบุกรุกเคะสถานในเวลากลางคืน และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายฯ โดยให้จำคุกจำเลยที่ 4 ต่อจากคดีเดิมที่ศาลจังหวัดหัวหิน จำเลย 7, 8, 9, 13 จำคุก คนละ 10 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่น และให้จำเลยที่ 1-13 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุ เป็นเงิน 150,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 2 เจ้าของห้องที่เกิดเหตุและ 1 ในผู้บาดเจ็บ 125,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 3 ผู้บาดเจ็บเป็นเงิน 95,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 4 มารดาของผู้ตาย เป็นเงิน 6,870,000 บาท และให้ชำระ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2560 จนกว่าจะชำระเงินให้กับโจทก์ร่วมครบถ้วน และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 14 เนื่องจากเป็นผู้ที่พักอาศัยในหอพักที่เกิดเหตุ รวมทั้งไม่ได้ลงจากรถของจำเลยไปร่วมก่อเหตุ


ขณะที่นางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ศาลได้ให้ความยุติธรรมที่สุดแล้ว ครอบครัวพอใจกับคำพิพากษา และจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ แต่หากฝ่ายจำเลยยื่นอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย ยืนยันไม่อโหสิกรรม ขอให้คนที่ฆ่าหลานรับโทษไปตามกฎหมาย ส่วนศพหลานที่ยังอยู่ในโลงเย็นที่บ้านในจังหวัดชุมพร จะขอรอจนกว่าคดีจะสิ้นสุดก่อน จึงจะพิจาณาเรื่องการฌาปนกิจต่อไป เพราะจนถึงทุกวันนี้ แม่ก็ยังทำใจไม่ได้ หลังกลับจากทำงานยังกลับมาเปิดดูหน้าลูกชายในโลงทุกวัน 


...


แฟ้มภาพ
ข่าวทั้งหมด

X