รมว.คมนาคมเผย สัปดาห์หน้ารู้ผลสอบกรณีการบินไทยเที่ยวบินซูริค-กรุงเทพ

22 ตุลาคม 2561, 17:34น.


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า บมจ.การบินไทย (THAI) อยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้โดยสารร้องเรียนความล่าช้าของเที่ยวบิน TG971 เส้นทาง ซูริค-กรุงเทพฯ โดยบริษัทได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบขัอเท็จจริงแล้วคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปผลได้  เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการบริหารจัดการและการดูแลผู้โดยสารก็คือลูกค้า อีกด้านคือเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากกัปตันเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจนำเครื่องขึ้นหรือนำเครื่องลง ซึ่งต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ส่วนทางด้านภาคพื้นก็ต้องดูแลผู้โดยสารที่มีระเบียบปฏิบัติอยู่ ส่วนสิทธิเป็นเรื่องระเบียบภายในของการบินไทยก็ต้องพิจารณาด้วย



ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้กลุ่มนักบินและผู้ช่วยนักบินของ บมจ.การบินไทยจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันเข้าพบนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI หลังเกิดเหตุการณ์กรณีผู้โดยสารร้องเรียนเรื่องความล่าช้าของเที่ยวบิน TG971 เส้นทาง ซูริค-กรุงเทพฯเมื่อ 11 ต.ค. เนื่องจากนักบินต้องการที่นั่งของผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส และยืนยันจะไม่ทำการบินจนผู้โดยสารต้องยอมเปลี่ยนที่นั่ง



นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของ THAI กล่าวว่า บุคลากรที่เป็นนักบินนับว่าเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญมากในธุรกิจการบิน แต่บางกรณีก็จะต้องมีการจัดสรรที่นั่งให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกรณีเที่ยวบิน ทีจี 971 ซูริค-กรุงเทพฯ แต่ยอมรับว่าระบบการจัดสรรการจองที่นั่งของบริษัทยังมีช่องว่างที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็จะอยู่ในรายการที่บริษัทจะไป ปรับแก้ทั้งหมด



นายสุเมธ มองว่า กรณีที่นักบินจำเป็นจะต้องบินกลับมาในตำแหน่งผู้โดยสารนั้น ไม่ใช่เกิดขึ้นทุกเที่ยวบิน และกรณีที่เกิดขึ้นต้องมีวิธีจัดการ ซึ่งมีหลายรูปแบบ ถ้าเที่ยวบินเต็มจริง แล้วนักบินไม่สามารถใช้สิทธิของตนเองได้ ขณะที่ผู้โดยสารก็มีความจำเป็นต้องบินมากับเที่ยวบินนี้  บางครั้งก็อาจจะต้องขอให้นักบินค้างอีก 1 คืน หรือจะมีการเปลี่ยนเครื่องบิน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้เป็นหน้างานที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะในแต่ละปีบริษัทมีผู้โดยสารเกือบ 20 ล้านคน ซึ่งนักบินจะรู้ถึงสถานการณ์เป็นอย่างไร



ด้านนายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า คณะกรรมการและผู้บริหารรับปากว่าจะทำให้ผลการสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 7 วัน คงต้องรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นในเที่ยวบินวันนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการให้ผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิตต้องรอนานถึง 2 ชั่วโมง เพราะทราบว่านักบินที่ต้องการเดินทางในวันนั้นเป็นนักบินที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินนั้น แต่เป็นการโดยสารกลับ เมื่อที่นั่งเต็มแล้ว แม้จะมีสิทธิในที่นั่งดังกล่าวตามระเบียบ แต่นักบินถือว่าเป็นผู้มีวุฒิภาวะ น่าจะสามารถแยกแยะได้ว่า ผลประโยชน์ขององค์กรกับของตัวเอง อะไรควรมาก่อน เป็นเรื่องของจิตวิญญาณมากกว่า อย่างไรก็ตาม สหภาพฯ มีแนวคิดที่จะขอหารือกับฝ่ายบริหารบริษัทฯ ถึงกรณีการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งไม่กระทบที่ต้องปรับลดจำนวนคนแต่อย่างใด แต่เป็นการปรับลดในส่วนของโครงสร้างฝ่ายบริหารที่มีการแต่งตั้งตำแหน่งและทำงานซ้ำซ้อนกัน



 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X