หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหา 3 คนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์ นายนรพร พรหมบุตร วิศวกรยานยนต์ ที่บริเวณหน้าห้างซีคอน ถนนศรีนครินทร์เมื่อคืนวันที่ 13 ตุลาคม ต่อมาจากการสืบสวนของตำรวจสน.ประเวศ พบว่า ยังมีทรัพย์สินของผู้เสียหายอีกบางส่วนหายไป จึงได้เชิญตัวนายพิชัย ชูชน หรือนายเตี้ย คนขับรถแท็กซี่ที่รับนายนรพร จากร้านอาหารย่านเอกมัย มาสอบปากคำ จนรับสารภาพว่าเอาสร้อยทองไปจริงแต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายตามที่ถูกกล่าวอ้าง ส่วนเงินสดของผู้เสียหายนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เอาไป
โดยวันนี้ตำรวจคุมตัวนายพิชัยมาชี้รถแท็กซี่คันที่ใช้ก่อเหตุ โดยยอมรับว่า ผู้เสียหายเรียกรถให้ไปส่งบริเวณถนนศรีนครินทร์ แต่ในระหว่างทางผู้เสียหายนอนหลับ ขณะนั้นเห็นสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายตกอยู่ที่เบาะแล้วอยากได้ จึงจอดรถแล้วหยิบสร้อยคอมาเก็บไว้ในกระเป๋า จนขับรถไปถึงบริเวณหน้าห้างย่านศรีนครินทร์ จึงปลุกให้ผู้เสียหายลงจากรถ จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่โรงรับจำนำย่านสุขสวัสดิ์ ได้เงินจำนวน 16,500 บาท และนำเงินไปเล่นการพนัน
พันตำรวจเอก อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผู้กำกับการสน.ประเวศ เปิดเผยว่า ช่วงแรกการสอบปากคำนายพิชัยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อสอบสวนต่อไปก็รับสารภาพว่าเอาสร้อยทองไปเพียงอย่างเดียว จากการตรวจสอบประวัตินายพิชัยพบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 9 คดี ทั้งคดียักยอกทรัพย์ ครอบครองยาเสพติด รวมถึงลักทรัพย์ด้วย โดยพฤติการณ์คือจะรับผู้เสียหายที่มีอาการมึนเมามาจากสถานบันเทิง จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่ไม่ได้เข้าแจ้งความหรือบางรายอาจจะจำเลขทะเบียนรถไม่ได้ ในช่วงบ่ายจะคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงฝากขัง พร้อมประสานตำรวจ สน.คลองตัน อายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ส่วนกรณีนายพีรวิชญ์ ปุตตะจินารักษ์ หรือตง ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม และนำตัวไปฝากขังก่อนหน้านี้ ผู้กำกับการสน.ประเวศ กล่าวว่า ระหว่างสอบปากคำ และควบคุมตัวไปทำแผน นายพีรวิชญ์ ไม่มีอาการหรือท่าทีคล้ายกับคนมีอาการทางจิตสามารถให้การได้ปกติ แต่มีติดต่อขอยาจากทางครอบครัว ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นยาประเภทใด และทางครอบครัวก็ยังไม่มีการยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ ระบุว่า นายพีรวิชญ์มีอาการทางจิต
...
ผู้สื่อข่าว : ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ