อดีตประธานาธิบดีโซเวียตเตือนผลกระทบหากสหรัฐฯ ออกจากสนธิสัญญานิวเคลียร์

กรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าจะถอนตัวออกจากสนธิสัญญาขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางปี 2530 หรือ ไอเอ็นเอฟ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานว่า นายมาคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาฉบับนี้ร่วมกับนายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเวลานั้น กล่าวว่า หากสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาฉบับนี้จริง ก็เท่ากับเป็นความผิดพลาด และเป็นการพลิกกลับความพยายามลดอาวุธนิวเคลียร์ที่ดำเนินมาตั้งแต่ยุคของสงครามเย็น เขากล่าวว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ควรมีการฉีกข้อตกลงลดอาวุธ ทั้งตั้งคำถามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจไม่เข้าใจว่าสนธิสัญญาฉบับนี้จะนำไปสู่อะไร และกล่าวด้วยว่า รัสเซียเองก็ไม่ได้ยินดีกับสนธิสัญญานี้ แต่ก็มีความตระหนักดีว่า หากถอนตัวออกจากข้อตกลงแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

ทั้งนี้ประธานาธิบดี ทรัมป์เห็นว่า รัสเซียละเมิดสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟมาเป็นเวลานานหลายปี เพราะยังมีการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ โนวาเทอร์ 9M729 หรือที่นาโต้เรียกว่า SSC-8 พิสัย 500-5,500 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้รัสเซียโจมตีชาติสมาชิกกลุ่มนาโต้ได้

แต่รัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริง และออกแถลงการณ์ที่ระบุว่าหากสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ส่วนรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อยุโรป และการลดความรุนแรงในอนาคต

...