+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี อ้างจากรายงานหนังสือพิมพ์ เยนี ซาฟัค หนึ่งในกระบอกเสียงของรัฐบาลตุรกี เป็นสื่อแรกที่เผยแพร่เนื้อหาบางช่วงบางตอนของ คลิปเสียงลับ บอกเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายจามาล คาช็อกกี ภายในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย ประจำเมืองอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ว่า ทีมสังหาร สอบปากคำ เพื่อเค้นข้อมูลจากผู้สื่อข่าวและนักวิจารณ์การเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยมีการตัดนิ้วมือของนายคาช็อกกี หลายนิ้ว และขั้นตอนการสอบปากคำเสร็จสิ้นด้วยการที่ทีมสังหารตัดศีรษะ
+++หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ สงวนท่าทีในการเปิดเผยว่า ได้รับคลิปเสียงมาจากใคร เมื่อใดและได้มาอย่างไร แต่รายงานด้วยว่าในช่วงหนึ่งมีเสียงของนายโมฮัมเหม็ด อัล-โอไทบี กงสุลใหญ่ซาอุดิอาระเบีย บอกกับทีมสังหารซึ่งกำลังทรมานนายคาช็อกกี เพื่อเค้นข้อมูลว่าให้ย้ายไปสอบปากคำที่อื่น เพราะการทำที่นี่ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา แต่มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาว่าให้กงสุลเงียบไป ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ซึ่งข้อมูลนี้จากเทปเสียงค่อนข้างสอดคล้องกับรายงานที่ว่า นายโอไทบี เดินทางกลับกรุงริยาดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่ของตุรกี เข้าตรวจค้นสถานกงสุล ระหว่างคืนวันจันทร์ถึงช่วงเช้าวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น
+++ตำรวจตุรกี เชื่อว่า หน่วยสังหารชุดพิเศษของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย 15 คนเป็นฝ่ายฆ่า
+++รายงานของเว็บไซต์ มิดเดิ้ล อีสต์ อาย หนึ่งในสื่อออนไลน์สำนักใหญ่ที่เกาะติดความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รายงานอ้างแหล่งข่าวของตัวเอง ว่าไม่มีการทรมานนายคาช็อกกี และทีมสังหาร ใช้เวลาเพียง 7 นาที ในการทำงาน ที่เป็นการหั่นร่างของนายคาช็อกกี ขณะที่ ยังมีชีวิตอยู่ และมีการเปิดเพลงคลอไปด้วย โดยผู้นำการลงมือส่วนนี้ คือพ.ท.ซาลาห์ มูฮัมเหม็ด อัล-ทูเบย์กี จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานแห่งชาติในกรุงซาอุดิอาระเบีย
+++ชื่อนี้ตรงกับชื่อที่เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ต้นสังกัดของนายคาช็อกกีในสหรัฐฯเคยรายงานไว้เมื่อไม่นานมานี้ และเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า พ.ท.ทูเบย์กี เป็นหนึ่งในคนสนิทของมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย
+++เจ้าชายโมฮัมเหม็ด ทรงยืนกรานกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างพบหารือที่กรุงริยาด เมื่อวันอังคารว่า พระองค์ ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายคาช็อกกี แต่ทรงยืนยันความพร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการสอบสวน
+++หลังจากนั้น รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้พบกับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีในกรุงอังการา เพื่อหารือในเรื่องนี้ นายปอมเปโอ เปิดเผยว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้
+++ด้านเจ้าหน้าที่หลายคนของสหรัฐฯตั้งข้อสังเกตว่าทีมสังหารของซาอุดิอาระเบีย อาจจะลงมือฆ่าบรรณาธิการข่าวชื่อดัง โดยที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ไม่ทรงทราบเรื่องโดยตรงก็เป็นได้
+++สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก รัสเซีย รายงานเหตุกราดยิงที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมือง Kerch บนคาบสมุทรไครเมีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน ได้รับบาดเจ็บ 50 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทั้งนี้ ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
+++รัฐบาลท้องถิ่นประกาศภาวะฉุกเฉิน และเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยและการลาดตระเวนทั่วคาบสมุทรไครเมีย และอยู่ระหว่างสืบสวน สอบสวนเหตุการณ์ ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าเป็นการก่อการร้าย โดยพื้นที่นี้เคยเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างรัสเซีย กับยูเครน หลังจากรัสเซียได้ผนวกเอาดินแดนไครเมียซึ่งเคยเป็นของยูเครนมาอยู่กับรัสเซีย
+++สำนักข่าว RT News ของรัสเซีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนเหตุการณ์ และเชื่อว่า น่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมธรรมดาไม่ใช่การก่อการร้าย และจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน โดยคณะกรรมการสอบสวน ระบุว่า ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุระเบิด ผู้ก่อเหตุชื่อว่า นายวลาดิสลาฟ โรซิยาคอฟ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยแห่งนี้ และกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพขณะเขาถือปืนไปก่อเหตุได้ และต่อมาเจ้าหน้าที่ก็พบศพของเขาถูกยิงด้วยอาวุธปืน
+++เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า จากผลการสอบสวนเชื่อว่า นายวลาดิสลาฟ ได้ก่อเหตุยิงเหยื่อทั้งหมดก่อนที่จะฆ่าตัวตาย
+++หลังจากสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) มีมติเสียงข้างมาก 146 เสียง คัดค้าน 3 เสียง คือสหรัฐฯ อิสราเอล และออสเตรเลีย และงดออกเสียง 15 เสียง เลือกปาเลสไตน์ ให้ทำหน้าที่ประธานพันธมิตรกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา จี77 โดยจะรับตำแหน่งต่อจากอียิปต์ในวันที่ 1 ม.ค. 2562
+++นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ กล่าวถึง มติของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า เป็นความผิดพลาดอย่างมาก ในกลไกการทูตระหว่างประเทศ เนื่องจาก ปาเลสไตน์ ไม่ถือว่ามีสถานะเป็นรัฐเอกราช แม้ได้รับการยกสถานะสมาชิกเป็นรัฐผู้สังเกตการณ์พิเศษ เทียบเท่านครรัฐวาติกัน เมื่อเดือน พ.ย. 2555 และประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีทางยอมรับการมีบทบาทของปาเลสไตน์บนเวทียูเอ็นอย่างเด็ดขาด
+++ขณะที่ นายริยาด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำยูเอ็น กล่าวขอบคุณมติของที่ประชุม และให้คำมั่นว่าปาเลสไตน์ จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่นี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกจี 77
+++ความเคลื่อนไหว สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เผยให้เห็นว่าคณะกรรมการเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนกังวลและมีแรงเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+++ดาวโจนส์ ลดลง 91.74 จุด ปิดที่ 25,706.68 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.71 จุด ปิดที่ 2,809.21 จุด แนสแดค ลดลง 2.79 จุด ปิดที่ 7,642.70 จุด
+++คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ขัดขืนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ด้วยการเห็นพ้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และคาดหมายว่า จะมีการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปเพิ่มเติมซึ่งจะสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ, ตลาดงานที่เข้มแข็งและอัตราเงินเฟ้อคงที่
+++ราคาทองคำ ปิดลบหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังเฟด เผยแพร่รายงานการประชุมประจำเดือนกันยายน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,227.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
CR:BBC