ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันที่ 17 ตุลาคม 2561 ช่วงที่ 2

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 71.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 63 เซ็นต์ ปิดที่ 81.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ขู่ลงโทษอย่างรุนแรง หากผลการสืบสวนพบว่าซาอุดิอาระเบียเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ฝ่ายต่อต้านชาวซาอุดิอาระเบีย

+++สถานการณ์ความตึงเครียดที่เลวร้ายลงเรื่อยๆระหว่าง 2 พันธมิตรอย่างสหรัฐฯกับซาอุดิอาระเบีย ทำให้เกิดความกังวลของชาติสมาชิกรายสำคัญของกลุ่มโอเปก

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรง โดยดาวโจนส์ พุ่งกว่า 540 จุด ท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ ซึ่งช่วยกลบความกังวลเกี่ยวข้อพิพาททางการค้าที่กดดันตลาดมานาน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 547.87 จุด ปิดที่ 25,798.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 59.13 จุด ปิดที่ 2,809.92 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 214.75 จุด ปิดที่ 7,645.49 จุด

ตลาดเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของสถาบันการเงินต่างๆและบริษัทประกันสุขภาพ ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

+++ธนาคารเพื่อการลงทุน มอร์แกน สแตนลีย์และโกลด์แมน แซคส์ ปิดบวกถึงร้อยละ 6.1 และร้อยละ 3.1 ตามลำดับ หลังเผยแพร่รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับสมาชิกดาวโจนส์ อย่างจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน กับ ยูไนเต็ดเฮลท์กรุ๊ป ที่ปิดบวกร้อยละ 2.0 และร้อยละ 4.5 ตามลำดับ

+++ส่วนราคาทองคำ แตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม แต่ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจาก ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 1,231.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++นายบุญทา ชัยเลิศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีนักท่องเที่ยวจีนลดลง ปัญหาหลัก คือ ความไม่พร้อมของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่จัดระเบียบ และตอบสนองนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ อีกทั้งมีปัญหาด้านความปลอดภัย และเรียกเก็บเงิน 300 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ทำให้ ผู้ประกอบการจีน ไม่พอใจไทย จึงรวมตัวไม่ส่งทัวร์เข้าไทย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ขอนแก่น นักท่องเที่ยว หายไปกว่าร้อยละ 50-60 ปัญหา ดังกล่าวต้องแก้ไขในระดับรัฐบาลเท่านั้น เอกชนไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

+++นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ช่วงโกลเด้นวีค หรือวันชาติจีนในเดือนตุลาคมนี้ ประเทศไทยมีการฟื้นตัวกลับมาจากสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่มีการติดลบในช่วงเดือนกันยายน สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม พบว่า นักท่องเที่ยวจีน เติบโตร้อยละ 3

+++นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า เดือนกันยายน 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 2,655,562 คน ขยายตัวร้อยละ 2.13 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาค สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยกว่า 140,140 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.92

+++นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผย ภายหลังหารือร่วมกับ 10 องค์กรที่เข้าร่วมเวทีสาธารณะ กะเทาะเปลือกสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า การเสวนาครั้งนี้ครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงผังแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ โดย 10 สมาคม มีความเห็นตรงกันว่า ไม่รับรองแผนแม่บทของ ทอท.ที่พัฒนาเทอร์มินัล 2 สนามบินสุวรรณภูมิ และเสนอให้กลับไปดำเนินการตามแผนแม่บท คือ ขยายเทอร์มินัล 1 ด้านตะวันออก-ตะวันตก

+++แผนที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ดำเนินการก็เป็นการศึกษาของ ทอท.เอง และองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ไม่ได้รองรับไว้ หลังจากนี้จะเสนอรัฐบาลให้ล้มการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 2 คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการได้

+++นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และวิศวกรผู้ร่วมวางแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ไอเคโอ กำหนดให้ ทอท.ดำเนินการเพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ แต่แผนพัฒนาของ ทอท.พบว่า ปรับไปรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศด้วย ซึ่งอาจขัดต่อคำแนะนำของไอเคโอ และ ทอท.จะพัฒนาอาคารดังกล่าวเพื่อให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใช้งาน แต่ปัจจุบันการบินไทยยังไม่ได้แสดงความสนใจ เพราะหากมาใช้อาคารจะเป็นรายจ่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้ การขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีความคุ้มค่าและรวดเร็วกว่า เพราะออกแบบเสร็จแล้วและผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้วและรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ แต่อาคาร 2 ยังอยู่ขั้นตอนออกแบบและยังไม่ผ่านอีไอเอ

+++นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า แผนแม่บทพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ แก้ไขปรับปรุงได้ ซึ่ง ทอท.คำนึงถึงความต้องการและการใช้งานของผู้โดยสาร

+++ปิดคดี น.ส.อิซซาเบล วิคตอเรีย สาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่าถูกวางยาและข่มขืนที่หาดทรายรี บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำทีมแถลงผลการสืบสวนสอบสวน หลังจาก ผบ.ตร. ส่งทีม พนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำที่ประเทศอังกฤษ จากการตรวจสอบพบว่า ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนทุกมิติ ครบถ้วน สมบูรณ์ ตั้งแต่ระดับโรงพักที่เกิดเหตุ และส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้เสียหายและนำหลักฐานที่ประเทศอังกฤษกลับมาตรวจสอบ ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้สืบสวนสอบสวนต่อ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย

+++พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว สวญ.สภ.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวน ที่เดินทางไปประเทศอังกฤษ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นต่าง ๆ ผู้เสียหาย ไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้ ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันข้อมูล และตำหนิรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ จึงไม่เพียงพอในการดำเนินคดี  ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันแผนประทุษกรรม หรือพฤติกรรม ของคนร้ายในการกระทำความผิดได้ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน และบัตรเครดิตที่สูญหาย ทราบมีการอายัดกับสถาบันการเงิน และยังไม่มีการแจ้งทำบัตรใหม่ ข้อมูลจึงไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวน ได้นำพยานหลักฐานหนึ่งชิ้นจากผู้เสียหาย คือเสื้อยืดคอกลมสีกรมท่า นำมาตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานด้วย ผลการตรวจพิสูจน์เสื้อยืด พบดีเอ็นเอของบุคคล 2 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คนปรากฏบนเสื้อ แต่ไม่พบคราบอสุจิตามคำกล่าวอ้าง

+++ศาลอาญา นัดฟ้องคำพิพากษาคดีกระทำอนาจาร ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ อดีตประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำเลยในความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277,317 ระหว่างเดือนม.ค.2543 - กลางปี 2544 จำเลยได้พรากเด็กหญิงวัย 13 ปี เศษไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เหตุเกิด ต.โพธิ์ ต.หนองแก้ว อ.เมือง และ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ต.แสนสุข ต.ห้วยยาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และที่อื่นๆเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 ด้วย เบื้องต้น จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดและเด็กที่เกิดมาก็ไม่ใช่บุตรของตัวเองและเดินหน้าสู้คดี โดยวันนี้ ศาลเบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อพิจารณาคดีนี้

แฟ้มภาพ