รองโฆษกตร. ยอมรับใช้อส.ตร.หญิงค้นตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่สภ.เมืองสงขลา เหตุตร.หญิงไม่พอ

 

หลังสื่อออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ การตรวจค้นของ อาสาสมัครตำรวจหญิง กำลังตรวจค้นวัยรุ่นผู้หญิง บริเวณทางไปมัสยิดควนหิน ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองสงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 เวลา ประมาณ 23.00 น. พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่นั้นได้มีประชาชนที่เป็นหญิงขับรถจักรยานยนต์ซ้อน 3 คน เข้ามายังบริเวณจุดสกัด จึงได้เรียกให้หยุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นผู้หญิงสวมเสื้อสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาว ปรากฏตามคลิป ซึ่งซ้อนท้ายหลังสุด ได้ใช้มือล้วงไปในกางเกงบริเวณด้านหน้ามีลักษณะพิรุธต้องสงสัยว่าอาจมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้อาสาสมัครตำรวจหญิง ขออนุญาตทำการตรวจค้น 

โดยการตรวจค้นบุคคลดังกล่าว เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน โดยการค้นตัวบุคคลซึ่งเป็นหญิง ต้องให้หญิงเป็นผู้ตรวจค้น ซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ การเคารพในสิทธิร่างกาย ในระดับสถานีตำรวจ เจ้าพนักงานตำรวจ ได้มีการแต่งตั้งอาสาสมัครตำรวจหญิง ซึ่งเป็นภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยจะต้องผ่านการอบรม สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปฎิบัติหน้าที่ได้  และในขณะตรวจค้นต้องมีเจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้ควบคุมการตรวจค้นจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้  

ทั้งนี้ประเด็นที่ไม่ได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในการร่วมตรวจค้นเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านปริมาณของตำรวจหญิงในสถานีตำรวจที่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งจุดสกัดดังกล่าวนั้นอยู่ห่างไกลจากเขตเมือง จึงมีความจำเป็นต้องใช้ อาสาสมัครตำรวจร่วมปฏิบัติ ทั้งนี้อาสาสมัครตำรวจร่วมปฏิบัติ จะต้องเป็นบุคลากร ที่มีความเสียสละ ผ่านการคัดเลือกจากสถานีตำรวจ โดยผ่านโครงการอบรม และขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ โดยจะมีการเรียกใช้ตามภารกิจที่เหมาะสม

การตั้งจุดสกัดดังกล่าวนั้น ได้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกรอบขั้นตอนของกฎหมาย โดยได้รับอนุญาต จากทางผู้บังคับบัญชา และได้มีเจ้าหน้าที่สัญญาบัตรร้อยตำรวจตรี ขึ้นไปเป็นหัวหน้าชุด แต่งเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่แสดงตนชัดเจน โดยในการตรวจค้นนั้นได้ทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน พูดคุยด้วยความสุภาพ ไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้ายให้เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจแก่บุคคลที่ถูกตรวจค้น ทั้งนี้การตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายต้องมีความละเอียด เนื่องจากเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดสกัดนั้น มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งในเรื่องความผิดยาเสพติด และอาวุธปืนอยู่บ่อยครั้งและในคืนดังกล่าว ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้ถึง 2 ราย ด้วยกัน