ผบ.ตร. ยืนยัน แหม่มอังกฤษกุเรื่องถูกข่มขืนบนเกาะเต่า

ผลการสืบสวนสอบสวนกรณีสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่าถูกวางยาและข่มขืนที่หาดทรายรี บนเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า หลังส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำสาววัย 19 ปีที่อังกฤษ และนำหลักฐานที่ประเทศอังกฤษกลับมาตรวจสอบ รวมทั้งสอบสวนตั้งแต่ระดับโรงพัก ที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าสาวชาวอังกฤษกุเรื่องขึ้นมา แต่หากพบว่ามีพยานหลักฐานใหม่ พร้อมที่จะให้สืบสวนสอบสวนต่อ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ยืนยันทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงของประเทศ

พันตำรวจโทปิยะพงษ์ บุญแก้ว สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะเต่า หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนที่เดินทางไปประเทศอังกฤษ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นต่างๆ เช่น ประเด็นสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายแผนที่บริเวณที่เกิดเหตุภาพถ่ายบริเวณหาดทราย และบริเวณที่ใกล้เคียงให้ผู้เสียหายดู แต่ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้ ประเด็นตำหนิรูปพรรณคนร้าย ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันข้อมูลและตำหนิรูปพรรณสันฐานของคนร้ายได้ จึงไม่เพียงพอในการดำเนินคดี และผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันแผนประทุษกรรมหรือพฤติกรรมของคนร้ายในการกระทำความผิดได้ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน และบัตรเครดิตที่สูญหาย ทราบมีการอายัดกับสถาบันการเงินและยังไม่มีการแจ้งทำบัตรใหม่ ข้อมูลจึงไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้นำพยานหลักฐานหนึ่งชิ้นจากผู้เสียหาย คือเสื้อยืดคอกลมสีกรมท่า นำมาตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ขณะที่พลตำรวจตรีปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่า ผลการตรวจพิสูจน์เสื้อยืด พบดีเอ็นเอของบุคคล 2 คน เป็นหญิง1คน ชาย 1 คนปรากฏบนเสื้อ แต่ไม่พบคราบอสุจิตามคำกล่าวอ้าง

ด้านพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงการแจ้งความดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จกับหญิงสาวรายดังกล่าว ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ และยังไม่ได้ขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ เนื่องจากการแจ้งความยังไม่เกิดขึ้น ประกอบกับผู้เสียหายก็ให้การมึนงง มีอาการสะลึมสะลือ ไม่สามารถให้การได้ว่าคนร้ายเป็นใคร มาจากไหน รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ส่วนการดำเนินคดีกับเพจสมุยไทม์และ CSI LA ก็มีการจับกุมดำเนินคดีหลายรายแล้ว