สวนดุสิตโพล ระบุ คนไทยกังวลความขัดแย้งของพรรคการเมือง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความเห็นกลุ่มตัวอย่าง 1,073 คนในหัวข้อ คนไทยเลือกผู้สมัครและเลือกพรรค "ไปเป็นส.ส." สำรวจระหว่างวันที่ 10-13 ตุลาคม 2561 สรุปผลได้ดังนี้

1. ประชาชนจะเลือกผู้สมัครแบบใด? ไปเป็น ส.ส.

          อันดับ 1 เป็นคนดี ประวัติดี การศึกษาดี ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ร้อยละ 58.74

          อันดับ 2 ขยัน ทำงานเก่ง มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทางการเมือง ร้อยละ 33.33

          อันดับ 3 เป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์ เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีแนวคิดใหม่ๆ ร้อยละ 26.07

          อันดับ 4 เป็นกันเอง เข้าถึงประชาชน พูดจาดี สุภาพ จริงใจ ไม่สร้างภาพ ร้อยละ 23.50

          อันดับ 5 มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก มีผลงาน เป็นที่ยอมรับ ร้อยละ 17.86

2. พรรคการเมืองแบบใด? ที่จะทำให้ตัดสินใจเลือกผู้สมัครพรรคนั้นๆ เป็น ส.ส.

          อันดับ 1 มีนโยบายดี ถูกใจประชาชน ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 53.83

          อันดับ 2 เป็นพรรคที่เข้มแข็ง มั่นคง มีอุดมการณ์ ร้อยละ 35.71

          อันดับ 3 หัวหน้าพรรคมีภาพลักษณ์ดี เป็นผู้นำ เป็นที่ยอมรับ ร้อยละ 19.36

          อันดับ 4 มีการทำงานเป็นทีม ระบบการบริหารจัดการภายในพรรคดี เข้าถึงประชาชน ร้อยละ 14.39

          อันดับ 5 มีการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครอย่างเหมาะสม และสนับสนุนอย่างเต็มที่ ร้อยละ 11.70

3. นโยบายหาเสียงเรื่องอะไร? ที่จะทำให้ถูกใจและเลือก ไปเป็น ส.ส.

          อันดับ 1 ดูแลช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชน แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจน ร้อยละ 47.93

          อันดับ 2 เน้นพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว /สร้างรายได้เข้าประเทศ ร้อยละ 45.85

          อันดับ 3 พูดจริงทำจริง ทำตามสัญญา พัฒนาจังหวัด ท้องถิ่นให้เจริญ ร้อยละ 33.92

          อันดับ 4 พัฒนาระบบขนส่งมวลชน การคมนาคม การศึกษา พลังงานและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 28.01

          อันดับ 5 ส่งเสริมประชาธิปไตย สร้างความเข้มแข็งทางการเมือง บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ร้อยละ 17.22

4. ประชาชนมีความวิตกกังวลเรื่องอะไร? ในการเลือกตั้งต้นปีหน้า (ปี 2562)

          อันดับ 1 การทะเลาะเบาะแว้ง การเคลื่อนไหวทางการเมือง บ้านเมืองไม่สงบ ร้อยละ 46.26

          อันดับ 2 ความไม่พร้อมของการจัดเลือกตั้ง อาจต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก ร้อยละ 38.50

          อันดับ 3 การทุจริต โกงเลือกตั้ง ซื้อเสียง ได้คนไม่ดีเข้ามาทำงาน ร้อยละ 26.52

          อันดับ 4 การออกไปใช้สิทธิ การรับรู้ข่าวสารเลือกตั้งของประชาชน ร้อยละ 24.12

          อันดับ 5 การใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งจำนวนมาก ไม่คุ้มค่า ร้อยละ 14.53

.....