องคมนตรี เผยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 ทำให้พสกนิกรมีชีวิตที่ดีขึ้น

การปาฐกถาเทิดพระเกียรติต่อโดยนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเริ่มปฏิบัติพระราชกรณียกิจครั้งแรกตั้งแต่ปี 2495 ตลอดรัชสมัยกว่า 70 ปีทรงมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริถึง 4,000 กว่าโครงการ โดยโครงการเกี่ยวกับด้านสาธารณสุขถือเป็นโครงการหนึ่งที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญ เห็นได้จาก การมีหน่วยแพทย์ต่างๆออกช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังทรงให้ความสำคัญในด้านการเกษตรและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรด้วย พระองค์ยังทรงใช้พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นสถานที่ศึกษาวิจัยและค้นคว้าทดลองต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่น่ายินดีว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไปเพื่อช่วยเหลือพสกนิกร

นายจิรายุ  กล่าวถึงบัตรอวยพรปีใหม่ หรือส.ค.ส. ของพระองค์ว่า ทั้ง 28 บัตร ตั้งแต่ปี 2531-2559 พระองค์ทรงออกแบบและพระราชทานคำอวยพรด้วยพระองค์เองทุกบัตร ไม่มีใครช่วยคิดตามที่หลายคนเข้าใจ ที่สำคัญทุกบัตรจะแฝงข้อคิดการใช้ชีวิตและคำอวยพรแก่พสกนิกรเสมอ หรือถ้าบางปีมีเหตุการณ์พิเศษก็จะทรงนำเหตุการณ์นั้นมาใส่ไว้ในบัตรส.ค.ส.ด้วย นายจิรายุ กล่าวถึง บัตรส.ค.ส.ปีใหม่ครั้งสุดท้ายของพระองค์ในปี 2559 ว่าแม้ขณะนั้นพระองค์ ทรงพระประชวร อยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ทรงพระราชทานบัตรด้วยพระองค์เอง ส่วนตัวถือว่าบัตรส.ค.ส.ปีดังกล่าว ถือเป็นบัตรอวยพรที่ล้ำค่าที่สุด เชื่อว่าวันที่ 13 ตุลาคม จะเป็นวันที่คนไทยต้องรำลึกถึงพระองค์ไปอีกนาน ซึ่งการรำลึกไม่ได้หมายถึงแค่การอาลัยถึงพระองค์ แต่เป็นการระลึกถึงคุณงามความดี, คำสอน และพระราชดำรัสต่างๆที่พระองค์พระราชทานไว้ ซึ่งจะอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป เพียงแต่คนไทยจะต้องสานต่อคำสอนและพระราชปณิธานของพระองค์ให้เป็นจริง ขณะที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานมุ่งมั่นที่จะสานงานต่อจากพระราชบิดา โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ

ผู้สื่อข่าว: ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร