+++หลายประเทศเผชิญภัยพิบัติจากพายุ เริ่มจากสหรัฐฯ พายุเฮอร์ริเคนไมเคิล ที่พัดถล่ม ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน มีกำลังลมสูงสุด 96.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเคลื่อนตัวมุ่งสู่จอร์เจียและแคโรไลนา หลังจากที่สร้างความเสียหายหนักเมื่อขึ้นฝั่งบริเวณฟลอริดาแพนแฮนเดิล ความแรงระดับ 4 มีกำลังลมสูงสุด 249 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
+++นับเป็นเฮอร์ริเคนลูกที่รุนแรงที่สุดที่รัฐแห่งนี้เคยเผชิญมาในรอบ 80 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน จากฝนตกหนัก และน้ำท่วมสูงมิดหลังคาบ้านในบางพื้นที่ของฟลอริดา ล่าสุดมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วรัฐแล้ว และล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 6 คน
+++สื่อท้องถิ่น รายงานว่า ชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับบ้านในฟลอริดา และเด็กหญิงอีกคนเสียชีวิตจากหลังคาที่จอดรถปลิวหล่นใส่บ้านในจอร์เจีย
+++สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บ้านเรือนและสถานธุรกิจกว่า 7 แสนหลังในฟลอริดา แอละแบมา และจอร์เจียไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี และประชาชนราว 6,000 คน ส่วนใหญ่ในฟลอริดาค้างคืนในศูนย์หลบภัย และคาดว่า ตัวเลขจะเพิ่มเป็น 20,000 คนใน 5 รัฐในช่วงสุดสัปดาห์นี้
+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมทั่วรัฐฟลอริดา เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไปสนับสนุนมาตรการรับมือภัยพิบัติของรัฐดังกล่าวและหน่วยงานระดับท้องถิ่น
+++นายริก สก็อตต์ ผู้ว่าการฟลอริดา ส่งสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิฟลอริดาราว 3,500 นาย ออกช่วยอพยพประชาชนและฟื้นฟูหลังภัยพิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยอีกกว่า 1,000 คน
+++กระทรวงกลาโหม ระดมทหารจากกรมกองต่างๆ กว่า 2,000 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ รถที่สามารถวิ่งลุยน้ำสูง และเรือกู้ภัย เตรียมพร้อมไว้หากจำเป็น
+++พายุลูกนี้ ยังทำให้ต้องระงับการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกกว่าร้อยละ 40 และก๊าซธรรมชาติเกือบ 1 ใน 3 เนื่องจาก ต้องอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งก่อนที่เฮอร์ริเคนลูกนี้จะไปถึง
+++ส่วนที่อินเดีย พายุไซโคลนเขตร้อน ติตลี ที่มีกำลังลมสูงสุด 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกในเขตศรีกากูลัมของรัฐอานธรประเทศ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรงทำลายบ้านเรือน ต้นไม้ถอนรากถอนโคน เสาไฟฟ้าและเสาสัญญาณโทรศัพท์หักโค่น คนหลายแสน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่พายุลูกนี้สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน และทำให้ปฏิบัติการฉุกเฉินเป็นไปอย่างยากลำบาก
+++ภาพจากโทรทัศน์ เผยให้เห็นหลังคาสังกะสีของบ้านเรือนหลายหลังกำลังถูกพัดปลิว พายุลูกนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบางเขตของรัฐโอริสสา สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน ไฟถนน และสิ่งกีดขวางถนนเนื่องจากต้นไม้ล้ม เจ้าหน้าที่ในโอริสสา อพยพประชาชนกว่า 3 แสนคน ยกเลิกเที่ยวรถไฟและเที่ยวบินจำนวนมาก
+++ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ต้องเผชิญกับฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนหลังจากรถยนต์หลายคันถูกน้ำท่วมฉับพลัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเฮลิคอปเตอร์ ร่วมกันออกค้นหาประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งมีฝนตกหนัก หน่วยดับเพลิง รายงานว่า ช่วยเหลือประชาชนได้ 16 คน
+++พายุฝน เคลื่อนตัวเข้าทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนที่เกาะมาจอร์กาของสเปน
+++สะพานมอเตอร์เวย์ที่เกาะซาร์ดีเนียของอิตาลี พังเสียหาย
+++สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ( บีเอ็นพีบี ) อินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ที่เกาะสุลาเวสี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ย. รายงานของบีเอ็นพีบี ระบุ จำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการไว้ที่ มากกว่า 2,000 คน และ ยังสูญหายอีก 5,000 คน
+++ทางการ เตรียมแผนปรับพื้นที่ประสบภัยรุนแรงทั้ง 3 แห่งในจังหวัดสุลาเวสีกลาง คือเมืองบาลารัว เปตาโบ และโจโนโอเก ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดปรากฏการณ์ แผ่นดินเหลว ( Soil Liquefaction ) ให้เป็นสวนและอนุสรณ์สถานที่ระลึกให้ผู้สูญหาย
+++ครอบครัวและญาติมิตรของผู้สูญหายต่างรวมตัวกันแสดงความเสียใจและไม่พอใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งวิจารณ์รัฐบาลว่าถอดใจ เนื่องจากหน่วยกู้ภัย ยังไม่เคยเข้าไปสำรวจพื้นที่บางแห่งด้วยซ้ำ แต่นายซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกของบีเอ็นพีบี กล่าวว่า ภารกิจค้นหาอาจดำเนินต่อไปอย่างจำกัด ในบางพื้นที่
+++เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในช่วงที่จรวดโซยุส ที่มีภารกิจเดินทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ(ไอเอสเอส) ทะยานขึ้นจากฐานยิงไบโคนูร์ คอสโมโดรม ในประเทศคาซัคสถาน เมื่อเวลา 14.40 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 11 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 15.40 น.ช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาในประเทศไทย โดยจะต้องอยู่ในวงโคจรท้องฟ้า 6 ชั่วโมงหลังจากทะยานขึ้น แต่ปรากฏว่าท่อนแรกของจรวดโซยุส ไม่ทำงานในไม่กี่นาทีหลังทะยานขึ้น ถือเป็นภารกิจล้มเหลวและขัดข้องเพราะเครื่องยนต์
+++นายนิค เฮก นักบินอวกาศชาวอเมริกัน สังกัดองค์การนาซ่า(องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ)และนายอเล็กซี ออฟชินิน นักบินอวกาศชาวรัสเซีย สังกัดองค์การรอสคอสมอส(องค์การอวกาศของรัสเซีย) ได้ขึ้นไปกับยานอวกาศด้วย นักบินทั้งสองคนได้แจ้งไปยังหอควบคุมยานอวกาศว่าระบบขับดันอากาศของยานขัดข้อง ทำให้นักบินอวกาศทั้งสองต้องนำยานอวกาศลงจอดห่างจากสถานีอวกาศในประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเป็นจุดที่ยานอวกาศขึ้นไปทางทิศเหนือ ราว 510 กม. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน่วยกู้ภัยเดินทางไปช่วยเหลือนำตัวออกจากกระสวยอวกาศได้อย่างปลอดภัย
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การใช้เวลาเดินทางทางเครื่องบินนาน 18 ชม. 45 นาที อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับบางคน แต่เมื่อเครื่องบินโดยสารรุ่นแอร์บัส เอ 350-900 ยูแอลอาร์ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ของสิงคโปร์เที่ยวบิน SQ22 ทะยานขึ้นจากสนามบินชางงี สิงคโปร์ เมื่อคืนนี้ เวลา 23.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น บินตรงยังนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ โดยไม่มีการแวะพักเครื่องให้เสียเวลา อาจจะเป็นเสมือนฝันที่กลายเป็นจริงสำหรับผู้โดยสาร 166 คน
+++เครื่องบินลำดังกล่าวจะไปถึงสนามบินนูอาร์ค ลิเบอร์ตี้ รัฐนิวยอร์ก เช้าวันศุกร์เวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯหรือราวเย็นนี้ 18.00 น.ตามเวลาในสิงคโปร์ ใช้เวลาเดินทางระยะทางราว 16,700 กม.(10,376 ไมล์) รวมเวลา 18 ชม.45 นาที หรือช่วงเวลาเย็นในวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย นับเป็นเครื่องบินโดยสารลำแรกที่เดินทางไกลที่สุดโดยไม่แวะจอดพักเครื่อง
+++จากหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนส หรือ กินเนสบุ๊คของสหรัฐฯ เครื่องบินโดยสารที่บินไกลที่สุดโดยไม่จอดแวะพักคือเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-200 แอลอาร์ เวิลด์ไลเนอร์ บินเป็นระยะทาง 13,422 ไมล์จากฮ่องกงไปที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 2548 รวมระยะเวลาบินรวม 22 ชม.42 นาที
CR:fox61.com.