หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคในการประชุม เปิดเผยว่า ที่ประชุมให้การเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ของพรรคจำนวน 5 คน โดยจะมีนาย ชุมพล กาญจนะ เป็นประธาน, นาง เจิมมาศ จึงเลิศศิริ เป็นเลขานุการ และกรรมการอีก 3 คน คือ นายเมฆินทร์ เอี่ยมสะอาด, นาย ธนา ชีรวินิช และนาย ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว โดย กกต.พรรคจะมีหน้าที่ควบคุมดูแลการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตลอดการหยั่งเสียง และเมื่อได้ผลการหยั่งเสียงแล้วให้กกต.พรรครายงานผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทราบทันที จากนั้นกกต.พรรคจะหมดหน้าที่ลง
ที่ประชุมยังมีมติเพิ่มจุดลงคะแนน จากเดิมที่กำหนดให้มีจุดลงคะแนนไม่น้อยกว่า 1 จุดในทุกจังหวัดที่มีสมาชิกอยู่ เปลี่ยนให้เป็นอำนาจของกกต.พรรคในการเสนอต่อเลขาธิการพรรคให้ความเห็นชอบในการกำหนดจุดลงคะแนนแทน โดยให้เสนอภายในวันที่ 15 ตุลาคม
ส่วนผู้มีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ สมาชิกที่มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคแล้วจำนวน 82,000 คน, สมาชิกเดิมที่ตกหล่นไปจำนวน 2,500,000 คน และสมาชิกใหม่ที่ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อนวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยปัจจุบันมีผู้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่กับพรรคแล้ว 959 คน ที่ประชุมยังมีมติเพิ่มจุดรับสมัครสมาชิกพรรคอีก 54 จุด ทำให้ขณะนี้มีจุดรับสมัครสมาชิกพรรครวมทั่วประเทศกว่า 286 จุด
มีรายงานว่า ชื่อผู้เป็นกกต.พรรค มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีชื่อของนาย วิลาศ จันทร์พิทักษ์ และนาย พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค แต่ต่อมานาย วิลาศ ได้ขอถอนตัว ส่วนนาย พีรพันธ์ ที่ถูกกำหนดให้เป็นประธานกกต.ในตอนแรก ได้ยื่นเงื่อนไขว่าจะทำหน้าที่ก็ต่อเมื่อมีการยกเลิกการให้สมาชิก 2,500,000 คนมีสิทธิหยั่งเสียงด้วย โดยระบุว่าการให้สมาชิกเดิมมีสิทธิหยั่งเสียงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะคนกลุ่มนี้ไม่มีสถานะเป็นสมาชิกพรรคแล้ว จึงเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาชี้นำพรรค แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วย เพราะการกำหนดให้สมาชิก 2,500,000 คนมีสิทธิหยั่งเสียงมาจากมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่แล้วซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นาย พีรพันธ์ จึงขอถอนตัว และทำให้มีการทาบทามนาย ชุมพล มานั่งเป็นประธานกกต.พรรคแทนในที่สุด