การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในคดีคอลเซ็นเตอร์ ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ราย และคดีแสร้งรักออนไลน์ ครั้งที่ 5 จำนวน 2 ราย รวมเป็นเงินกว่า 664,000 บาท โดยมีพลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้มอบเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์มีความก้าวหน้าไปมาก สำนวนคดีมีมากกว่า 500 สำนวน ได้สรุปส่งพนักงานอัยการไปแล้วกว่า 450 สำนวน ซึ่งยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้วกว่า 600 หมายจับ ได้จับกุมผู้ต้องหาแล้วกว่า 400 หมายจับ นอกจากนี้ยืนยันว่าแม้ที่ผ่านมาจะมีตำรวจโยกย้ายตำแหน่งแต่การปฏิบัติงานของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงเดินหน้าปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้กระทำความผิด
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. กล่าวว่า การจับกุมผู้กระทำความผิดทั้ง 2 เรื่อง ตำรวจและเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมิจฉาชีพคงหลบหนีอยู่และหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ จึงฝากเตือนประชาชนอย่างหลงเชื่อเพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้บัญชีของประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด
ส่วนผลการอายัดเงินผู้เสียหายที่ถูกหลอกคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันสามารถคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวมทั้งสิ้น 122 ราย รวมเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท ส่วนคดีโรแมนซ์แกรม สามารถอายัดเงินคืนให้กับผู้เสียหายได้จำนวน 11 ราย รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท