อภิสิทธิ์ พร้อมลงพื้นที่หาเสียงชิงตำแหน่งหน.พรรคประชาธิปัตย์

การเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการหยั่งเสียงเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้เข้ารับการหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรับสมัครในวันนี้ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยซึ่งแสดงความตื่นตัวของสมาชิกในการร่วมเป็นเจ้าของพรรค   ส่วนผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของพรรค ส่วนตัวได้เสนอรายชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขอให้รอมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง

ส่วนกระแสความขัดแย้งภายในพรรค นายอภิสิทธิ์  ยอมรับว่า การแข่งขันย่อมมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกติกา และแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ พร้อมขออย่ากลัว เพราะหากไม่มีการแข่งขันก็จะไม่เกิดประชาธิปไตย แต่ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เคยกระทบกระทั่งใคร  ส่วนหากใครพาดพิงถึงตนเองก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มีขอบเขต และอย่ากระทบกับส่วนรวมของพรรค

สำหรับกระแสข่าวที่ว่าคนภาคใต้ไม่ยอมรับ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวก็เห็นว่าบรรยากาศดี ว่าเป็นอย่างไร 

ส่วนแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า พรรคจะต้องเป็นตัวของตัวเองเป็นทางเลือกหลักของประเทศไม่ใช่อิงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะ อุดมการณ์ของพรรคเป็นสิ่งที่จะตอบโจทย์ให้กับประเทศไทยได้ดีที่สุด

สำหรับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์หลังการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า พรรคจะไปขอประชาชนเป็นพรรครัฐบาลด้วยตัวเอง แต่หากเป็นรัฐบาลพรรคเดียวไม่ได้ก็จะไปชวนพรรคอื่นให้เข้าร่วม  แต่ต้องเชื่อในแนวทางและอุดมการณ์ของพรรค และทำสิ่งที่บอกกับประชาชนให้ได้ เพราะไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแต่ทำอะไรไม่ได้  ซึ่งขัดกับความเชื่อและอุดมการณ์ของพรรค

นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันวิสัยทัศน์ของตนเอง เรื่องมุ่งมั่นเพื่ออุดมการณ์ และมุ่งหน้าเพื่ออนาคตประเทศ  เพราะวันนี้ประชาชน ต้องการสิ่งนี้ มากกว่าเรื่องการเมืองที่หวังการแย่งชิงอำนาจ และยืนยันว่าตนเองจะทำเต็มที่ ให้พรรคได้เป็นรัฐบาลและจะนำแนวคิดไปพัฒนาประเทศต่อไป และเชื่อว่าใครก็ตามที่เป็นหัวหน้าพรรคต้องคิดแบบนี้  พร้อมย้ำด้วยว่าแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีการแบ่งกลุ่ม โดยพรรคต้องเป็นหนึ่งเดียว และหากตนเองได้เป็นหัวหน้าก็จะแบ่งงานตามความสามารถ

ส่วนผู้ร่วมสมัครคนอื่นที่มีสมาชิกสนับสนุนทั้งกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ และกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ นายอภิสิทธ์ยืนยันว่าตนเองไม่มีกลุ่มเพราะอาสาทำงานเพื่อพรรค ส่วนกลุ่ม 35/1 ที่ออกมาสนับสนุนตนเอง เป็นเพราะเป็นส.ส.มาพร้อมกัน ซึ่งตนเองถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์  หลังจากนี้จะเดินสายพบสมาชิกพรรคให้มากที่สุด  โดยมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุน ขณะเดียวกันไม่กังวล แม้ผู้เข้าร่วมชิงตำแหน่งจะมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคจะเป็นผู้ตัดสิน