ตร.ไกล่เกลี่ยรถตู้ชนจยย.ลากขึ้นทางด่วนย่านพระราม9 ชดใช้ค่าเสียหาย-ไม่ดำเนินคดี

หลังมีภาพเผยแพร่ในโลกโซเชียล เหตุรถตู้ขับชนรถจักรยานยนต์พร้อมลากขึ้นไปบนทางด่วน จนทำให้นายศุกล เครือเสนอายุ21ปี ผู้ขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดทั้งนายศุกล และนาย อำนวย แซ่ลิ้ม ผู้ขับรถตู้คันก่อเหตุวัย 45 ปี  ได้เดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน

หลังเข้าไกล่เกลี่ยนานร่วม 3 ชม. นาย ศุกล เปิดเผยว่า การไกล่เกลี่ยจบลงด้วยดีทั้งหมด ตัวเองยอมความทุกกรณีรวมถึงที่ถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้ไม่ต้องไปสน.ดินแดงที่เป็นท้องที่ที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ส่วนข้อหาพยายามฆ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่เข้าข่าย ทั้งนี้คู่กรณีได้ขอโทษและยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งสองส่วน คือ ค่าทำขวัญ และค่ารถจักรยานยนต์ที่เสียหาย แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลขค่าเสียหาย บอกได้เพียงว่าอยู่ในระดับหมื่นที่ตัวเองพอใจ ซึ่งได้ชดใช้มาเกือบหมดแล้ว รับว่ายังตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแฟนตัวเองที่ยังหวาดผวาเวลาอยู่บนถนน แต่ก็สงสารคู่กรณีเช่นกัน เพราะกลัวคิดมากและตกงาน พร้อมได้ฝากคู่กรณีว่าอย่าใจร้อน รับว่าคู่กรณีแตกต่างจากช่วงเกิดเหตุแบบคนละคน

นายศุกล เครือเสน 

โดยขณะเกิดเหตุยอมรับว่าชุลมุนต่างมีอารมณ์ทั้งคู่ โดยเฉพาะช่วงที่ขับรถอยู่ดินแดง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จับคู่กรณีทั้งสองตรวจหาสารเสพติดและสารมึนเมาแล้วแต่ไม่พบ ส่วนตัวฝากกรณีนี้เป็นเครื่องเตือนสติคนใช้รถว่าอย่าใช้อารมณ์, ให้ระวังคำพูด รวมถึงการใช้เเตรรถ เพราะอาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดได้

นายอำนวย แซ่ลิ้ม

ส่วนผู้ขับรถตู้ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลโดยระบุสั้นๆว่า จะรีบไปทำงาน ส่วนคดีจบแล้วตกลงกันได้ด้วยดี

ด้าน ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ รอดสูงเนิน รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ระบุว่า คดีนี้เกิดจากความใจร้อนทั้งคู่ แต่เป็นคดีที่ยอมความได้ ซึ่งคนขับรถจักรยานยนต์ได้ถอนแจ้งความแล้ว หลังไกล่เกลี่ยก็ให้ทั้งสองจับมือกัน ส่วนคนขับรถตู้รับว่าอาจมีความเครียด เพราะเสี่ยงต่อการตกงาน และขอสังคมอย่าเอาเป็นประเด็นมาก เพราะเท่าที่ดูก็เป็นคนดี เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปรับหรือแจ้งข้อหาเอาผิดฝ่ายใดเพิ่ม ทั้งนี้มีรายงานว่าคนขับรถตู้คันดังกล่าวเป็นผู้ขับรถตู้ให้บริษัทเอกชนรายหนึ่ง