สภากทม.เห็นชอบขึ้นค่าธรรมเนียมกิจการสธ.-จัดตั้งตลาด

การประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) สมัยที่ประชุมวิสามัญ สมัยที่ 4 ครั้งที่ 1/2561 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. ...ตามที่ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ได้เสนอ ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 19 เสียง และงดออกเสียง 2 ราย สาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตดำเนินกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในลักษณะการค้า และปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการตามกฎหมายว่าด้วยสาธารณสุข ซึ่งจะมีการปรับปรุงค่าธรรมเนียมกิจการ 100 รายการเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ตามสภาวะเศรษฐกิจอัตราเงินเฟ้อ หรือปีละร้อยละ 4 ตั้งแต่ปี 2547 ที่ไม่ได้ถูกปรับปรุง โดยกิจการที่มีการปรับขึ้น เช่น การเพิ่มรายการการประกอบกิจการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย โดยการขอใบอนุญาต ปรับค่าธรรมเนียมฉบับละ 7,000 บาทต่อปี จากฉบับละ 5,000 บาทต่อปี การประกอบกิจการให้บริการเลี้ยงและดูแลเด็กที่บ้านของผู้รับบริการ ต้องเสียค่าธรรมเนียมฉบับละ 1,500 บาทต่อปี การประกอบกิจการให้บริการผู้สูงอายุที่บ้านของผู้รับบริการ ฉบับละ 1,400 บาทต่อปี การแสดงดนตรีไทย รำวง รองเง็ง และนาฏศิลป์ไทย อัตราค่าธรรมเนียมฉบับละ 1,400 บาทต่อปี การแสดงมหรสพ ดนตรีสากล เต้นรำ ดิสโก้เธค คาราโอเกะ ตู้เพลง หรือการแสดงอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน อัตราค่าธรรมเนียมฉบับละ 4,200 บาทต่อปี

นอกจากนี้ยังมีการปรับขึ้นการออกใบอนุญาตจัดตั้งตลาด เดิมมีค่าธรรมเนียมทุกประเภท 2,000 ต่อปี เป็นตลาดที่จัดตั้งภายในอาคาร ที่มีจำนวนแผงค้าไม่เกิน 50 แผง มีค่าธรรมเนียม  3,000 บาทต่อปี ตลาดที่มีแผงค้าเกิน 50 แผง ไม่เกิน 100 แผง 5,000 บาทต่อปี ตลาดที่มีแผงค้าเกิน 100 แผง 10,000 บาทต่อปี และตลาดที่จัดตั้งในพื้นที่ไม่มีโครงสร้างอาคาร ที่มีจำนวนแผงค้าไม่เกิน 50 แผง มีค่าธรรมเนียมฉบับละ  4,000 บาทต่อปี มีจำนวนแผงค้าเกิน 50 แผง ไม่เกิน 100 แผง ค่าธรรมเนียม ฉบับละ 6,000 บาทต่อปี และมีแผงค้าเกินกว่า 100 แผง ค่าธรรมเนียมฉบับละ 10,000 ต่อปี คาดว่าหากมีผลบังคับใช้  กทม. จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ปีละ 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ได้มีข้อสังเกต ให้ กทม. ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่ต้องดำเนินการตามร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครทราบล่วงหน้า ก่อนที่ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครจะมีผลบังคับใช้ และ กทม. ควรปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม สำหรับการดำเนินกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขทุกๆ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและภาระค่าใช้จ่ายในการควบคุมกิจการแต่ละประเภท โดยหลังจากนี้จะส่งมติเห็นชอบให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เห็นชอบ ก่อนประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป

เกตุกนก ครองคุ้ม ผู้สื่อข่าว