เรื่องธรรมดา!สมาชิกย้ายพรรค หน.พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดรับสมาชิกพรรคตั้งแต่วันพรุ่งนี้

หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา นาย ธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า พรรคมีมติว่าจะเริ่มเปิดรับสมัครสมาชิกตั้งแต่วันพรุ่งนี้(3 ตุลาคม 2561) เป็นต้นไป โดยได้เห็นชอบการจ่ายเงินค่าบำรุงพรรคและใบสมัครสมาชิกแล้ว พร้อมมีมติจัดตั้งสาขาพรรค 4 สาขาตามกฎหมาย ประกอบด้วย ภาคกลางที่จ.สุพรรณบุรี, ภาคเหนือจ.เพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จ.ร้อยเอ็ด และภาคใต้ที่จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ยังหารือกันถึงเรื่องธุรการและระเบียบต่างๆของพรรคที่ยังมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งร่างข้อบังคับพรรค, เงินทุนประเดิมพรรคจำนวน 1 ล้านบาท และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค เป็นต้น ซึ่งบางเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุปและต้องปรึกษากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะหากมีข้อผิดพลาดโทษอาจรุนแรงถึงขั้นยุบพรรคได้ ส่วนจะไปลงพื้นที่เหมือนพรรคการเมืองอื่นเพื่อหาสมาชิกหรือไม่ ถ้าสิ่งใดทำได้ตามกฎหมายก็จะทำ พรรคขอยึดตามกติกา เพื่อป้องกันไม่ให้ผิดกฎหมาย

ด้านนาย นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า จะให้เวลาทีมกฎหมายไปปรับปรุงร่างข้อบังคับพรรคก่อนนำกลับมาหารือในวันที่ 18 ตุลาคม และพรรคมีกำหนดจัดประชุมใหญ่เพื่อลงมติรับรองร่างข้อบังคับพรรค, เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ พร้อมระบุว่าการที่พรรคติดขัดเรื่องต่างๆทางธุรการและกฎหมาย ไม่ถือเป็นข้ออ้างให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และขอรัฐบาลอย่าเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะเตรียมการไว้หมดแล้ว

ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ยังไม่ทราบว่าพรรคจะส่งผู้สมัครลงครบ 350 เขตหรือไม่ โดยพรรคต้องการเน้นคุณภาพผู้สมัครมากกว่าปริมาณ แต่ก็จะพยายามส่งให้ครบและทำให้ดีที่สุด พร้อมรับว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และท้าทาย ซึ่งน่าสนุกสำหรับประชาชน แต่ปวดหัวกับนักการเมือง เพราะทุกพรรคนอกจากจะได้รับผลกระทบยังเหมือนถูกเซ็ตซีโร่ใหม่ทั้งหมด และยังมีพรรคการเมืองเกิดใหม่หลายพรรคจึงยากที่จะประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งได้

ส่วนกรณีที่นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตส.ส.ของพรรคย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นาย ธีระ กล่าวว่า พรรคทราบแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง ก็จากกันไปด้วยดีไม่มีเหตุติดใจกัน ซึ่งการย้ายสังกัดก็ขึ้นกับสมาชิกพรรค พร้อมขอให้มองด้านบวกว่าพรรคก็ได้คนหน้าใหม่เข้ามาเช่นกัน แม้จะยอมรับว่าการจากไปของอดีตส.ส.จะมีผลกระทบบ้าง ซึ่งฐานเสียงของนาย ชาดา คงไม่สามารถทำอะไรได้ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะเลือกใคร ส่วนกังวลหรือไม่ว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงจำนวนส.ส.จะน้อยลง ก็ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง เชื่อว่าเหตุการณ์แปรเปลี่ยนได้ตลอด พรรคมีหน้าที่แค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทั้งนี้ยังไม่ทราบข่าวว่ามีอดีตส.ส.ของพรรคย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะยังไม่มีการบอกกล่าวมา